Page 56 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 56

52



               21. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 108/๒๕62

               ประเด็นข้อพิพำท       :  1. ผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้ำนฝ่ำยใดเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
                                        2. ผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกร้องค่ำจ้ำง ค่ำเสียหำย และหนังสือหลักประกันคืนจำก
               ผู้คัดค้ำนหรือไม่
                                        3. ผู้คัดค้ำนมีสิทธิเรียกค่ำเสียหำยจำกผู้เรียกร้องหรือไม่เพียงใด


                              ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 ผู้คัดค้านได้ท าสัญญาจ้าง
               ผู้เรียกร้องให้ท างานโครงการขยายเขตจ่ายน้ าประปาในพื้นที่ ก าหนดระยะเวลาท างานแล้วเสร็จภายใน 180 วัน โดย
               ผู้เรียกร้องต้องเริ่มลงมือท างานในวันที่ 20 มกราคม 2558 และจะต้องท างานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 18
               กรกฎาคม 2558 แต่เมื่อสิ้นสุดก าหนดระยะเวลาสัญญาในวันดังกล่าว ผู้เรียกร้องท างานได้เพียงร้อยละ 5 ของเนื้องาน
               ตามสัญญา ต่อมาวันที่ 10 สิงหาคม 2558 ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือแจ้งผู้คัดค้านอ้างถึงปัญหาและอุปสรรคในการ
               ด าเนินการก่อสร้างที่งานก่อสร้างบางส่วนอยู่ในเขตทางหลวงแผ่นดินซึ่งกรมทางหลวงฯ ยังไม่อนุมัติให้ด าเนินการก่อสร้าง
               เพื่อขอสงวนสิทธิขยายระยะเวลาปฏิบัติงานตามสัญญา วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ผู้เรียกร้องมีหนังสือแจ้งยินยอมเสีย
               ค่าปรับให้แก่ผู้คัดค้านโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เพื่อขอผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญาและอนุญาตให้ผู้เรียกร้องด าเนินการตามที่
               ก าหนดในสัญญาต่อไป ต่อจากนั้น เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือขอเสนอแก้ไขแผนงานก่อสร้าง

               โดยมีระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มีนาคม 2559 ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2559 ผู้คัดค้านได้แจ้งให้
               ผู้เรียกร้องเร่งรัดด าเนินงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มีนาคม 2559 แต่เมื่อสิ้นก าหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้เรียกร้อง
               ท างานได้เพียงร้อยละ 33 ของเนื้องานทั้งหมด ผู้คัดค้านจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญากับผู้เรียกร้อง


               ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
                              คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาประเด็นข้อพิพาทแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาทข้อแรก
               ว่า ผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้านฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญา เห็นว่า แม้จะได้ความตามทางน าสืบของผู้คัดค้านที่ผู้เรียกร้องมิได้น า
               สืบโต้แย้งเป็นประการอื่นว่าหลังจากผู้เรียกร้องได้ท าสัญญาจ้างกับผู้คัดค้านและผู้เรียกร้องได้ขอเลื่อนเข้าด าเนินการ

               ก่อสร้างตามสัญญาจากวันที่ 20 มกราคม 2558 เป็นวันที่ 30 มกราคม 2558 แล้ว จนกระทั่งถึงวันที่ 15 มิถุนายน
               2558 ผู้เรียกร้องจึงเริ่มน าอุปกรณ์และเครื่องจักรเข้ามาในบริเวณหน้างานมีการท างานจนถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2558
               ก็ได้หยุดท างานตลอดมาจนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 อันเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญาโดยผู้เรียกร้องท างานได้
               เพียงร้อยละ 5 ของเนื้องานตามสัญญาเท่านั้นก็ตาม แต่ผู้คัดค้านก็มิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและกลับได้ความว่าต่อมาวันที่
               10 สิงหาคม 2558 ผู้เรียกร้องได้แจ้งปัญหาอุปสรรคต่อผู้คัดค้านว่า มีการก่อสร้างวางท่อประปาอยู่ในเขตทางหลวงและ
               ถูกกรมทางหลวงฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานครอบครองดูแลและใช้ประโยชน์ในเขตพื้นที่ก่อสร้างงานมีหนังสือแจ้งค าสั่ง
               ให้ผู้เรียกร้องกับผู้เกี่ยวข้องหยุดท าการก่อสร้างและให้ขนย้ายรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากพื้นที่ของกรมทางหลวง
               เนื่องจากผู้คัดค้านมิได้ขออนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ท าให้ผู้เรียกร้องไม่อาจจะเข้า
               ด าเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งผู้เรียกร้องได้ยินยอมช าระค่าปรับให้แก่ผู้คัดค้าน โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อขอให้ผู้คัดค้านพิจารณาผ่อน

               ปรนการบอกเลิกสัญญาและอนุญาตให้ผู้เรียกร้องด าเนินการตามที่ก าหนดในสัญญาต่อไป โดยผู้เรียกร้องได้มีหนังสือเสนอ
               แผนงานก่อสร้างต่อผู้คัดค้านเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ให้มีก าหนดระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายในวันที่ 30
               มีนาคม 2559 ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้พิจารณาให้ผู้เรียกร้องด าเนินการก่อสร้างต่อไป และได้แจ้งให้ผู้เรียกร้องรีบเร่งรัด
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61