Page 52 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 52
48
20. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 67/2562
ประเด็นข้อพิพำท : 1. ผู้เรียกร้องมีสิทธิบอกเลิกสัญญำจ้ำงกับผู้คัดค้ำนหรือไม่
2. ผู้คัดค้ำนจะต้องคืนเงินประกันสัญญำพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เรียกร้องหรือไม่ เพียงใด
ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
ประเด็นที่ ๑ ที่ก าหนดไว้ว่า ผู้เรียกร้องมีสิทธิบอกเลิกสัญญากับผู้คัดค้านได้หรือไม่นั้น
คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาแล้วว่า สัญญาพิพาทเป็นสัญญาจ้างก่อสร้างที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้งานการสร้าง
โรงเรียนซึ่งเป็นการปฏิบัติการตามภารกิจอันเป็นการบริการสาธารณะของรัฐ สัญญาจ้างดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญา
ทางปกครองซึ่งผู้ว่าจ้างในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้แต่เพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งสัญญาจ้างก็มิได้มี
ข้อก าหนดใด ๆ ไว้ในสัญญาที่จะให้สิทธิแก่ผู้เรียกร้องที่จะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ ในประเด็นนี้คณะอนุญาโตตุลาการจึง
วินิจฉัยว่า ผู้เรียกร้องไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างกับผู้คัดค้านได้
ประเด็นที่ ๒ ที่ก าหนดว่า ผู้คัดค้านจะต้องคืนเงินประกันสัญญาพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้เรียกร้องหรือไม่
เพียงใด นั้น
ผู้เรียกร้องน าสืบเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ทางผู้คัดค้านได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้แก่ผู้เรียกร้อง
โดยสภาพพื้นที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ ผู้เรียกร้องจึงประสานให้ผู้คัดค้านเป็นผู้ตัดโค่นต้นไม้เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้เรียก
ร้อง โดยผู้เรียกร้องจะได้ด าเนินการท าแคมป์พักคนงานรอไปพลางก่อนจนเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ผู้เรียกร้องก็ได้
น ารถแมคโครเข้าปรับพื้นที่และท าถนนลูกรังส าหรับเป็นทางเข้ารถและด าเนินการเทปูนเพื่อเป็นพื้นที่ลานจอดรถ
ซึ่งผู้เรียกร้องได้เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการด าเนินการส่วนนี้ไปแล้ว ๒๖๓,๐๐๐ บาท และเมื่อผู้เรียกร้องจะเริ่มด าเนินการ
ถมดินในพื้นที่ก่อสร้างปรากฏว่าพื้นที่ก่อสร้างนั้นเป็นร่องน้ ามีขนาดกว้างซึ่งจ านวนดินถมตามปริมาณที่ทางผู้คัดค้าน
ก าหนดมาให้แก่ผู้เรียกร้องนั้นไม่เพียงพอที่จะถมให้เต็มพื้นที่ได้ เนื่องจากผู้คัดค้านก าหนดจ านวนดินมาเพียง ๑๑๗
ลูกบาศก์เมตร แต่หลังจากที่ผู้เรียกร้องค านวณตามพื้นที่จริงแล้วจะต้องใช้ดินถมถึงจ านวน ๘๑๗ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น
ปริมาณเยอะกว่าที่ก าหนดไว้ใน BOQ หลายเท่า ทางผู้เรียกร้องจึงเจรจาหาวิธีทางแก้ปัญหาและได้เจรจากับผู้คัดค้าน
โดยผู้เรียกร้องได้มีหนังสือถึงผู้คัดค้านขออนุมัติงานเพิ่มเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๐ ผู้เรียกร้องได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหาก
ใช้จ านวนดินถมเท่าที่ตามรายการปริมาณงาน (BOQ) ก าหนดจะท าให้การตอกเสาเข็มรองรับอาคารไม่มั่นคงแข็งแรงได้จึง
เป็นการพ้นวิสัยที่จะท าการก่อสร้างต่อไป และผู้เรียกร้องไม่สามารถท างานที่จ้างอื่นได้ เช่น งานตอกเสาเข็ม หล่อตอม่อ
หล่อคาน เพราะหากท าต่อไป อาจจะผิดสัญญาไม่ได้รับค่าจ้างได้ในภายหลัง ทางผู้เรียกร้องจึงให้ทนายความมีหนังสือไปถึง
ผู้คัดค้านและให้ทางผู้คัดค้านคืนเงินค่าหลักประกันแก่ผู้เรียกร้องเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๐ ซึ่งผู้เรียกร้องมิได้มีเจตนา
บอกเลิกสัญญาทางปกครอง แต่ผู้เรียกร้องมีจุดประสงค์หลักที่จะให้ทางผู้คัดค้านคืนหลักประกันให้กับผู้เรียกร้อง
และตัดทอนความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวยุติ ผู้คัดค้านก็มิได้ยินยอมหรือบอกเลิกสัญญากับ
ผู้เรียกร้องโดยเร็ว ภายหลังจากนั้น เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ซึ่งได้ล่วงเลยระยะเวลาเกิดข้อพิพาทประมาณ ๙-๑๐ เดือนแล้ว
ทางผู้คัดค้านจึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาถึงผู้เรียกร้อง ซึ่งหากผู้คัดค้านเร่งรีบก่อสร้างอาคารเรียน ผู้คัดค้านก็สามารถ
บอกเลิกสัญญาได้โดยเร็ว และหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายอื่นมาก่อสร้างแทนบริษัทผู้เรียกร้อง แต่ผู้คัดค้านก็ไม่ได้ว่าจ้าง
บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใดมาด าเนินการต่อจากบริษัทจนถึงปัจจุบัน จึงไม่ปรากฏความเสียหายที่ท าให้ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น
จากการว่าจ้างผู้รับเหมารายอื่นที่ผู้คัดค้านมีสิทธิจะยึดหรือบังคับเอากับหลักประกันสัญญา หรือยึดหน่วงหลักประกันไว้ได้
นอกจากนี้ ความเสียหายอื่น ๆ ผู้คัดค้านก็มิได้อ้างถึงความเสียหายใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีกนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในค าคัดค้าน