Page 47 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 47

43



               18. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 23/๒๕62

               ประเด็นข้อพิพำท       :  1. ผู้คัดค้ำนต้องช ำระเงินค่ำจ้ำงตำมสัญญำพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้เรียกร้องหรือไม่
               เพียงใด
                                        2. ผู้คัดค้ำนมีสิทธิเรียกร้องค่ำปรับ ค่ำควบคุมงำน พร้อมดอกเบี้ย และมีสิทธิ
               ริบหลักประกันตำมสัญญำเพื่อมำช ำระค่ำปรับ ค่ำควบคุมงำน พร้อมดอกเบี้ยหรือไม่ เพียงใด


                              ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ผู้เรียกร้องในฐานะผู้รับจ้าง
               และผู้คัดค้านในฐานะผู้ว่าจ้าง ตกลงเข้าท าสัญญาจ้าง เพื่อให้ผู้เรียกร้องท างานขุดลอกดินก าจัดวัชพืช โดยก าหนด
               รายละเอียดต่าง ๆ ในใบเสนอราคา ใบปริมาณงาน และประมาณการราคาท้ายสัญญาจ้าง ก าหนดค่าจ้างจ านวน
               ๖,๖๗๐,๐๐๐ บาท ก าหนดช าระ ๓ งวด งวดที่ ๑ จ านวน ๒,๐๐๑,๐๐๐ บาท เมื่อปฏิบัติงานได้ร้อยละ ๓๐ ของ
               เนื้องานทั้งหมดและส่งมอบภายในวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๙ งวดที่ ๒ จ านวน ๒,๐๐๑,๐๐๐ บาท เมื่อปฏิบัติงานได้ร้อยละ
               ๖๐ ของเนื้องานทั้งหมดและส่งมอบงานงวดที่ ๒ ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และงวดที่ ๓ จ านวน ๒,๖๖๘,๐๐๐ บาท
               เมื่อผู้เรียกร้องปฏิบัติงานเสร็จเรียบร้อยตามสัญญา โดยขณะท าสัญญาผู้เรียกร้องน าหลักประกันเป็นหนังสือค้ าประกันของ
               ธนาคารวางไว้ให้แก่ผู้คัดค้านเป็นหลักประกัน ตกลงเริ่มท างานวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ และต้องท างานให้เสร็จ
               สมบูรณ์ภายในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ซึ่งปรากฏว่าผู้เรียกร้องได้ส่งมอบงานที่จ้างครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ของสัญญา

               ในวันดังกล่าวภายในก าหนดระยะเวลาตามสัญญาแล้ว เพียงแต่มีความช ารุดบกพร่องของงานเกี่ยวกับวัชพืชที่หลงเหลือ
               ตามสัญญาจ้าง

               ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
                              คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาประเด็นข้อพิพาทแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามประเด็นข้อพิพาททั้งสอง
               ข้อโดยวินิจฉัยรวมไปพร้อมกันว่า  เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่าผู้เรียกร้องได้ส่งมอบงานที่ท าครบถ้วนตามสัญญาภายในก าหนด
               แล้ว ผู้คัดค้านจึงมีหน้าที่ต้องช าระหนี้ตอบแทนตามสัญญา เป็นเงินจ านวน ๖,๖๗๐,๐๐๐ บาท และด้วยเหตุดังกล่าว
               ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิเรียกให้ช าระค่าปรับกับค่าควบคุมงาน และไม่มีสิทธิริบหลักประกันสืบเนื่องจากข้อพิพาทในคดีนี้ได้

               อย่างไรก็ดี เนื่องจากความบกพร่องในเรื่องการก าจัดวัชพืชซึ่งปรากฏตามพยานหลักฐานของผู้คัดค้านว่าเป็นความช ารุด
               บกพร่องสืบเนื่องจากการท างานของผู้เรียกร้อง เมื่อมีการส่งมอบงานในวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ นับถึงวันที่มีค าชี้ขาดจึง
               พ้นระยะเวลาความรับผิดของผู้เรียกร้องเพื่อความช ารุดบกพร่องตามสัญญา ซึ่งมิใช่ความผิดของคู่พิพาทฝ่ายใด หากแต่
               เป็นเพราะการโต้แย้งกันในเรื่องการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสัญญาซึ่งมีความไม่ชัดเจน เพื่อประโยชน์แห่ง
               ความยุติธรรม  อนุญาโตตุลาการจึงเห็นควรก าหนดความเสียหายในส่วนนี้ให้แก่ผู้คัดค้านเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไข
               ความช ารุดบกพร่องดังกล่าว ซึ่งคู่พิพาทไม่ได้น าสืบข้อเท็จจริงในเรื่องจ านวนความเสียหาย อนุญาโตตุลาการจึงเห็นควร
               ก าหนดให้ตามพฤติการณ์จากความเสียหายที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้น พิจารณาขนาดพื้นที่หนองเท่ากับ ๑๖๐,๐๐๐ ตาราง
               เมตร หรือเท่ากับ ๑๐๐ ไร่ เห็นควรก าหนดเป็นน้ าหนักวัชพืชลอยน้ าไร่ละ ๖๐ ตัน รวมเป็นน้ าหนักวัชพืช ๖,๐๐๐ ตัน
               โดยก าหนดค่าใช้จ่ายในการก าจัดวัชพืชด้วยเรือ โดยค านึงถึงอัตราราคาเอกสารหมายเลข ค.๓๑ แผ่นที่ ๕ และราคาน้ ามัน

               ประกอบค่าแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์อ้างอิงดังกล่าว จึงเห็นควรก าหนดค่าใช้จ่ายในอัตราคิดจากวัชพืชตันละ ๘๐ บาท
               รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นจ านวน ๔๘๐,๐๐๐ บาท โดยให้หักจ านวนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ออกจากค่าจ้างที่ผู้คัดค้านต้องช าระ
               ให้แก่ผู้เรียกร้อง คงเหลือจ านวนเงินค่าจ้างที่ผู้คัดค้านต้องช าระให้แก่ผู้เรียกร้องอีกจ านวน ๖,๑๙๐,๐๐๐ บาท
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52