Page 179 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 179
ฉบับพิเศษ ประจำ�ปี 2564
4. กฎหมายของสหภาพยุโรป
ิ
ั
ุ
ิ
ิ
กฎหมายลขสทธของประเทศสมาชกยโรปนนอย่ภายใต้กฎหมายลายลกษณ์อกษร
์
ิ
ั
ั
ู
้
ที่เรียกว่า Directive ที่ 2001/29/EC on the harmonization of certain aspects of copyright
and related rights in the information society หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า InfoSoc Directive ซึ่งเป็น
ี
ึ
ิ
ี
ื
กฎหมายท่บัญญัติข้นเพ่อทํากฎหมายสารบัญญัติเก่ยวกับลิขสิทธ์ในประเทศสมาชิกเป็น
ึ
ื
อันหน่งอันเดียวกันและตราข้นเพ่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ของสังคมแห่งข้อมูล
ึ
(information society) ในปัจจุบัน
แม้ประเทศสมาชิกจะมีกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอันเป็นกฎหมายภายในของ
แต่ละรัฐ แต่สภาพของ Directive นั้นก็มีผลบังคับใช้โดยตรง (direct effect) กับประเทศสมาชิก
และศาลมีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่หากมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้และการตีความ
กฎหมายก็สามารถเสนอให้ศาล EU หรือ Court of Justice of the European Union (CJEU)
วินิจฉัยได้ และคําวินิจฉัยของ CJEU จะมีผลผูกพันบังคับศาลของประเทศสมาชิกให้ต้องปฏิบัติ
ตาม โดยในหลาย ๆ คดี ศาลแห่งประเทศสมาชิกอาจตั้งประเด็นประกอบไปด้วยว่าประเทศ
สมาชิกสามารถที่จะขยายหรือลดความคุ้มครองให้นอกเหนือไปจากที่ CJEU วินิจฉัยได้หรือไม่
ซึ่งคําตอบของ CJEU ก็ขึ้นกับแต่กรณี ๆ ไป ดังที่จะเห็นได้จากตัวอย่างคดีที่จะกล่าวต่อไป
4.1 กฎหมายลายลักษณ์อักษร
กฎหมายลายลักษณ์อักษรท่ว่าน้คือ InfoSoc Directive ซ่งตราขึ้นเมือวันท่ 22 พฤษภาคม
ี
ี
ึ
ี
ํ
ค.ศ. 2001 โดยมีบทบัญญัติที่ว่าด้วยสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์อันได้แก่ การทําซา
้
(reproduction right) การเผยแพร่ต่อสาธารณชน (right of communication to the public)
17
การจําหน่าย (distribution right) สิทธิที่เกี่ยวข้องกับการ linking หรือ framing ซึ่งเป็นปัญหา
้
ในสหภาพยุโรปน้นจะจํากัดอยู่ท่สิทธิในการทําซําและเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซ่งต้นแบบของ
ั
ึ
ี
บทบัญญัติดังกล่าวมีที่มาจาก WIPO Copyright Treaty และ Berne Convention ที่สหภาพยุโรป
มีพันธะกรณีนั่นเอง
สําหรับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการทําซําน้นบัญญัติอยู่ใน Article 2 มีใจความว่าสิทธ ิ
้
ั
้
ํ
ในการทําซา (reproduction) ไม่ว่าโดยช่วคราวหรือถาวร (temporary or permanent) และไม่
ั
ว่าโดยวิธีใดหรือในรูปแบบใด (by any means and in any form) เป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของ
17 หากแปลตามตัวอักษร communication จะแปลได้ว่า การติดต่อ อย่างไรก็ดี เหตุที่ใช้คําว่า “เผยแพร่” ก็เพราะ
การติดต่อดังกล่าวต้องกระทําต่อสาธารณชน (public) ซึ่งก็คือการเผยแพร่นั่นเอง การใช้คําดังกล่าวจึงน่าจะเหมาะสมกับบริบท
และเป็นถ้อยคําที่นักกฎหมายลิขสิทธิ์ของประเทศไทยเข้าใจกัน
177