Page 171 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 171

ดุลพาห




                     ความผิดตามมาตรา ๒๘๑ มิได้เป็นบทบัญญัติที่กำาหนดถึงลักษณะการกระทำาความ
            ผิดและกำาหนดโทษไว้โดยเฉพาะเจาะจงดังเช่นมาตราอื่นในประมวลกฎหมายอาญา เพียงแต่

            เป็นมาตราที่บัญญัติถึงประเภทของความผิด กล่าวคือบัญญัติว่า ความผิดฐานข่มขืนกระทำา

            ชำาเราตามมาตรา ๒๗๖ หรือความผิดฐานกระทำาอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญ
            ใช้กำาลังประทุษร้ายตามมาตรา ๒๗๘ ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำานัลเป็นความผิดอันยอมความ

            ได้ ในขณะเดียวกัน หากความผิดใดในสองความผิดข้างต้นเกิดต่อหน้าธารกำานัลย่อมเป็นความ
            ผิดอันยอมความไม่ได้ ด้วยเหตุนี้การพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องต่อหน้าธารกำานัล

            จึงเป็นองค์ประกอบความผิดที่สำาคัญประการหนึ่ง เนื่องจากความผิดอันยอมความได้และ
            ความผิดอันยอมความไม่ได้มีความหมายและผลทางกฎหมายที่แตกต่างกันหลายประการ

            โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ๒ ประการที่สำาคัญ ประการแรกคือ การดำาเนินคดี ที่เมื่อความผิดอันยอม

            ความได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ภายใน ๓ เดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิด
                                                                                          ๑๑
            และรู้ตัวผู้กระทำาผิด มิฉะนั้นคดีย่อมขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๖
            แต่หากเป็นคดีความผิดอันยอมความไม่ได้ ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายกำาหนดไว้ชัดแจ้งให้ต้อง

            ร้องทุกข์ภายใน ๓ เดือนดังเช่นความผิดอันยอมความได้ ด้วยเหตุนี้ การดำาเนินคดีความผิด

            อันยอมความไม่ได้จะเกิดจากการร้องทุกข์ของผู้เสียหายหรือไม่มีการร้องทุกข์ของผู้เสียหาย
            ก็ได้ เพียงแต่พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการต้องดำาเนินคดีภายใต้อายุความตาม

                                            ๑๒
            ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๕  และประการที่สองคือการระงับคดี ที่เมื่อผู้เสียหาย
            ถอนคำาร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายสำาหรับความผิดอันยอม

            ความได้แล้ว สิทธิในการนำาคดีอาญาของผู้เสียหายและพนักงานอัยการมาฟ้องย่อมระงับไป
                                                                   ๑๓
            ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๒)  ในขณะที่ความผิดอันยอม


            ๑๑. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๖ บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับ มาตรา ๙๕ ในกรณีความผิดอันยอมความ
              ได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำาความผิด
              เป็นอันขาดอายุความ”.
            ๑๒. ประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  ๙๕  บัญญัติว่า  “ในคดีอาญา  ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำาความผิด
              มายังศาลภายในกำาหนดดังต่อไปนี้  นับแต่วันกระทำาความผิดเป็นอันขาดอายุความ  (๑)  ยี่สิบปี  สำาหรับ
              ความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำาคุกตลอดชีวิต หรือจำาคุกยี่สิบปี (๒) สิบห้าปี สำาหรับความผิดต้อง
              ระวางโทษจำาคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี (๓) สิบปี สำาหรับความผิดต้องระวางโทษจำาคุกกว่าหนึ่งปีถึง
              เจ็ดปี (๔) ห้าปี สำาหรับความผิดต้องระวางโทษจำาคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี (๕) หนึ่งปี สำาหรับความ
              ผิดต้องระวางโทษจำาคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น”
            ๑๓. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ บัญญัติว่า “สิทธินำาคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
              ดั่งต่อไปนี้ (๒) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ถอนคำาร้องทุกข์ ถอนฟ้อง หรือยอมความกัน โดยถูก
              ต้องตามกฎหมาย”.


            160                                                              เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕
   166   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176