Page 167 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 167
ดุลพาห
ธารกำานัลในประมวลกฎหมายอาญา
นันทัช กิจรานันทน์*
ความผิดต่อหน้าธารกำานัล เป็นความผิดอาญาที่หากมองผิวเผิน อาจไม่ทราบถึง
ปัญหาข้อกฎหมายในการปรับใช้ความผิดฐานดังกล่าว เนื่องจากคำาว่า ธารกำานัล เป็นถ้อยคำาที่
ปุถุชนคนธรรมดาได้พบได้ยินมาตั้งแต่โบราณกาล อันปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนในประมวล
๑
กฎหมายอาญา ร.ศ.๑๒๗ มาตรา ๒๔๘ และมาตรา ๓๓๗ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นถ้อยคำาที่ประชาชน
เข้าใจโดยทั่วกันว่า เป็นการกระทำาในที่สาธารณสถานอันประชาชนอาจเห็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม
หากพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมจะพบว่าความผิดต่อหน้าธารกำานัลเกิดขึ้นได้
ในหลากหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน การอนาจาร การกระทำาอันควรขายหน้าโดย
เปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือการทำาให้ผู้อื่นอับอายเดือดร้อนรำาคาญ ซึ่งการกระทำาเหล่านี้
ที่กระทำาต่อหน้าธารกำานัลย่อมมีความหมายและตีความคำาว่า ธารกำานัลแตกต่างกันออกไป
จึงก่อให้เกิดปัญหาตามอุทาหรณ์ดังนี้
* ผู้ช่วยผู้พิพากษารุ่นที่ ๖๙, นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๒) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,
เนติบัณฑิตไทย, นิติศาสตรมหาบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการ
ยุติธรรม, อดีตอาจารย์ประจำา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อดีตพนักงานอัยการกอง
คดีอาญา.
๑. ประมวลกฎหมายอาญา ร.ศ.๑๒๗ มาตรา ๒๔๘ “การฟ้องเอาโทษแก่ผู้กระทำาผิดกฎหมายหมวดนี้นั้น ถ้าคดี
เป็นข้อหาว่า ใช้อำานาจด้วยกำาลังหรือขู่เข็ญทำาชำาเราขืนใจหญิง ดั่งว่าไว้ในตอนต้นแห่งมาตรา ๒๔๓ ก็ดี
หรือคดีมีข้อหาว่าใช้อุบายหลอกลวงทำาชำาเราขืนใจหญิงดั่งว่าไว้ในตอน ๒ แห่งมาตรา ๒๔๓ นั้นก็ดีหรือว่า
คดีเป็นข้อหาว่าตั้งอาจทำาอนาจารแก่บุคคลดั่งว่าไว้ในมาตรา ๒๔๖ นั้นก็ดีท่านว่าให้พิจารณาดูฐานที่
เกิดเหตุก่อน ถ้าเหตุมิได้เกิดต่อหน้าธารกำานัลไซร้ ท่านให้ถือว่าต่อผู้ที่ถูกกระทำาร้ายมาร้องทุกข์ จึงให้
เจ้าพนักงานเอาคดีนั้นขึ้นว่ากล่าวตามกบิลเมือง ”
ประมวลกฎหมายอาญา ร.ศ.๑๒๗ มาตรา ๓๓๗ บัญญัติว่า “ความผิดลหุโทษในฐานกระทำาการอนาจาร (๑)
ผู้ใดแสดงวาจาลามกอนาจารต่อหน้าธารกำานัลท่านว่ามันมีความผิดต้องระวางโทษ (๒) ผู้ใดเปลือยกาย
หรือกระทำาการอย่างอื่นๆ อันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำานัลท่านว่ามันมีความผิดต้องระวางโทษชั้น ๔”.
156 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕