Page 191 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 191

ดุลพาห




                     ๔.๘ ลงลายมือชื่อผู้นำาเสนอ (คณะกรรมการสอบสวนหรือต้นสังกัดก็ได้)
                     ในกรณีที่หัวหน้างานโดยตรงเป็นผู้ทำาการสอบสวนก็ให้ลงลายมือชื่อไว้  หรือ

            หากบริษัทตั้งคณะกรรมการสอบสวนก็ต้องให้คณะกรรมการทุกคนลงลายมือชื่อไว้ด้วย

            ถ้ากรรมการท่านใดซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อย แต่มีความเห็นแย้งก็ให้สามารถแสดงความเห็นแย้ง
            กับกรรมการส่วนใหญ่ได้ด้วย ซึ่งอาจจะเกิดประโยชน์แก่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งถูกลงโทษ ในกรณีที่

            เขาอุทธรณ์ผลการสอบสวนก็ได้

                     ๔.๙ ลงลายมือชื่อผู้อนุมัติให้ลงโทษหรือยกข้อกล่าวหา

                     เมื่อฝ่ายจัดการพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการสอบสวนหรือผู้สอบสวนแล้ว
            ก็ต้องตัดสินใจว่าให้ลงโทษหรือไม่มีความผิด ไม่มีโทษใดๆ เลย โดยปกติแล้วฝ่ายจัดการ

            อันได้แก่ ผู้จัดการทั่วไป หรือกรรมการผู้จัดการ หรือประธานบริษัท แล้วแต่กรณี  เมื่อมอบ
            หมายให้ผู้สอบสวนหรือคณะกรรมการสอบสวนจัดการสอบสวนแล้ว โดยมรรยาทต้องให้ความ

            ไว้วางใจ ดังนั้นจึงมักจะมีคำาอนุมัติตามที่ผู้สอบสวนเสนอมา เว้นแต่จะมีเหตุผล หรือความ

            จำาเป็นพิเศษปรากฏขึ้นมาอันเป็นเหตุให้ฝ่ายจัดการสั่งการเป็นอย่างอื่นก็ได้

                     ๔.๑๐ คำาสั่งขอฝ่ายจัดการให้ลงโทษที่มีไปถึงพนักงานผู้ต้องโทษทางวินัย

                     เมื่อฝ่ายจัดการได้สั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งลงไปแล้ว โดยปกติผู้จัดการฝ่ายบุคคล
            จะมีหน้าที่ทำาคำาสั่งให้ฝ่ายจัดการลงนามแล้วนำาไปมอบแก่ต้นสังกัดของพนักงาน เพื่อส่งแก่

            พนักงานผู้ได้รับผลดำาเนินการทางวินัยโดยตรงต่อไป หากมีคำาสั่งเลิกจ้างก็ต้องจัดเตรียมทำา
            คำาสั่งเลิกจ้างต่อไป


                     ๔.๑๑ ควรมีถ้อยคำาแจ้งด้วยว่า หากพนักงานผู้ถูกลงโทษไม่พอใจคำาวินิจฉัยลงโทษ
                                         ๕๕
            ของนายจ้าง ให้สามารถอุทธรณ์ ได้ด้วยวิธีการอย่างไรและภายในระยะเวลาเท่าใดอีกด้วย


            ๕๕.  เคยมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผู้เขียน เรื่องมีอยู่ว่า พนักงานผู้ต้องหาว่ากระทำาผิดถูกสอบสวนว่ากระทำา
                 ผิดวินัย โดยบกพร่องต่อหน้าที่เป็นเหตุให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเบียดบังเงินบริษัท (นายจ้าง) ไปจำานวน
                 หนึ่งและมีคำาสั่งลงโทษตัดค่าจ้าง  ซึ่งพนักงานเองก็ลงลายมือชื่อยอมให้ลงโทษตัดค่าจ้างแล้วด้วย  แต่
                 ปรากฏว่ากระบวนการสอบสวนไม่ชอบด้วยข้อบังคับการทำางานเพราะนายจ้างทำาฝ่ายเดียวไม่เปิด
                 โอกาสให้พนักงานได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ (ฎีกาที่ ๑๔๖๔/๒๕๒๗) ต่อมาพนักงานอุทธรณ์คำาสั่งลงโทษตามข้อ
                 บังคับและขอให้เพิกถอนคำาสั่งลงโทษเพราะการสอบสวนไม่ชอบ  ก็มีคำาถามว่า  “การที่พนักงานลง
                 ลายมือชื่อยินยอมให้ลงโทษตัดค่าจ้างแล้วเช่นนี้จะตัดค่าจ้างได้หรือไม่” ตอบลงโทษไม่ได้เพราะกระบวน
                 การพิจารณายังไม่แล้วเสร็จยังอยู่ในระหว่างต้องดำาเนินการต่อไป การลงลายมือชื่อดังกล่าวเป็นแต่เพียง
                 รับทราบคำาสั่งลงโทษในชั้นสอบสวนเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากรณีผลอุทธรณ์ออกมาว่า การ
                 สอบสวนไม่ชอบก็หมายความว่า คำาสั่งลงโทษไม่ชอบตกเป็นอันเสียเปล่ามาแต่แรกไม่มีผลผูกพันใดๆ
                 ต่อลูกจ้างเลย.

            180                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   186   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196