Page 186 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 186
ดุลพาห
ซึ่งผู้เขียนเคยสังกัดอยู่ไปยังบริษัทผู้ส่งออก ผู้เขียนพยายามวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว
สรุปว่า จริงอยู่การกระทำาอาจจะเป็นความผิด แต่ทำาไปเพื่อประโยชน์ของนายจ้างภายใน
สถานประกอบการของนายจ้าง ภายใต้ความรู้เห็นของนายจ้างทั้งหมด และเงินที่ได้รับก็เป็น
ไปตามอัตราขั้นตำ่าตามกฎหมายโดยเปิดเผย จึงเป็นการกระทำาที่สุจริตและถือว่านายจ้าง
ไม่ถือว่าเป็นความผิดมาแต่แรกแล้ว ดังนั้นจึงลงโทษลูกจ้างกลุ่มนี้ไม่ได้ แล้วส่งหนังสือ
Legal Opinion ดังกล่าวให้แก่กรรมการผู้จัดการชาวต่างประเทศผู้นั้น ผ่านผู้จัดการฝ่าย
ทรัพยากรบุคคล กรรมการผู้จัดการผู้มาใหม่จึงยอมจำานนต่อเหตุผลและไม่เลิกจ้างพนักงาน
ช่างกลุ่มนี้ ซึ่งต้องถือว่า ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลผู้นั้นมีคุณธรรมและสู้เพื่อความถูกต้อง
จริงๆ ซึ่งผู้เขียนขอยกตัวอย่างและสรรเสริญไว้ ณ โอกาสนี้
บางกรณีการกระทำาก็อาจจะไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามข้อบังคับการทำางาน
ก็จะถือว่า มีการกระทำาอันเป็นความผิดไม่ได้ ประการสำาคัญลักษณะการกระทำาผิดวินัยของ
๔๕
๔๖
ลูกจ้างต้องเกี่ยวข้องกับสภาพการจ้างด้วย
๓.๓ มูลเหตุจูงใจหรือเจตนาในการกระทำา
มูลเหตุจูงใจเป็นสิ่งสำาคัญมากในการตัดสินใจว่า ลูกจ้างผิดจงใจหรือประมาท
๔๗
เลินเล่อ ดังคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๔๕๐/๒๕๓๔ ซึ่งลูกจ้างได้ตอกบัตรแทนกันแต่ไม่ผิด
เพราะขาดเจตนาทุจริตโกงค่าแรง เป็นแต่เพียงความมักง่ายเท่านั้น
ตามกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา ๑๑๙ แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.
๒๕๔๑ กระทำาผิดด้วยความจงใจไม่ต้องรอดูว่าเกิดผลอย่างไรบ้าง แต่หากประมาทเลินเล่อ
ต้องเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายด้วยจึงจะเป็นความผิดที่เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่าย
ค่าชดเชย (คือต้องพิจารณาก่อนว่าเกิดความเสียหายอะไรขึ้นมาบ้าง)
การทำางานไม่ได้ตามมาตรฐานการทำางานของนายจ้างไม่ถือว่า เป็นการจงใจทำาให้
เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง แต่ถือว่าเป็นการด้อยสมรรถนะในการทำางานเท่านั้นไม่ใช่การ
ฝ่าฝืนวินัยหรือข้อบังคับการทำางาน ซึ่งสามารถเลิกจ้างได้แต่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้าง
๔๘
๔๕. คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๔๕๘/๒๕๒๔ ระเบียบบอกห้ามเสพของมึนเมาในโรงงาน แต่ข้อเท็จจริงเสพ
นอกโรงงาน จึงไม่เป็นความผิด.
๔๖. คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๖๓/๒๕๒๙ การมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่ถือว่าผิดวินัย.
๔๗. ประมาทเลินเล่อนี้ในทางกฎหมายแยกเป็น ๒ ลักษณะ คือ ประมาทโดยรู้ตัว (recklessness) และ
ประมาทโดยไม่รู้ตัว (negligence).
๔๘. คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๙๓๑-๒๙๓๒/๒๕๓๐.
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 175