Page 185 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 185
ดุลพาห
ก่อการวิวาทหรือชกต่อยกันในโรงงานหรือบริษัทนั้น ย่อมมีความประสงค์จะลงโทษเฉพาะผู้ที่
กระทำาผิดในฐานที่เป็นผู้ก่อการวิวาทชกต่อยเท่านั้น มิได้หมายถึงกรณีที่เป็นการป้องกันโดย
ชอบด้วยกฎหมาย หรือด้วยความจำาเป็นที่กฎหมายยกเว้นโทษ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าลูกจ้าง
ถูกทำาร้าย จำาต้องยอมให้ผู้อื่นทำาร้ายตน โดยไม่อาจใช้สิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติคุ้มครองให้
ไว้ ซึ่งเป็นการแปลข้อบังคับที่ไม่ชอบด้วยผล”
บางกรณีก็มีการกระทำาแต่ลูกจ้างมีอำานาจปฏิเสธ เช่น หากนายจ้างสั่งให้ลูกจ้าง
ทำางานล่วงเวลา แต่งานนั้นไม่มีลักษณะต้องทำางานติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน
หรือไม่เป็นงานฉุกเฉินตามกฎหมาย ดังนี้ลูกจ้างย่อมปฏิเสธการทำางานล่วงเวลาได้ ไม่ถือว่า
๔๓
ขัดคำาสั่งนายจ้าง บางกรณีนายจ้างออกคำาสั่งนัดประชุมต่อลูกจ้างอย่างฉุกเฉินกะทันหัน
๔๔
ทั้งๆ ที่ลูกจ้างมีนัดหรือธุระอื่นอยู่แล้ว จึงเข้าประชุมไม่ได้ จึงถือว่าไม่ผิดฐานขัดคำาสั่งนายจ้าง
ในชีวิตการทำางานจริงของผู้เขียนเคยพบคดีหนึ่งที่ถือว่าน่าสนใจมาก และสะท้อน
ภาพจริยธรรมของนักบริหารงานบุคคลชาวไทยที่สู้เพื่อความถูกต้องแก่ลูกจ้างคนไทย
ด้วยกัน ในกรณีดังกล่าวบริษัทตัวกลางในการส่งสินค้าออกต่างประเทศ (Forwarder)
ได้ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ไร้คุณภาพมีสภาพไม่พร้อมใช้งาน จึงได้รับการต่อว่าโต้แย้งจากผู้ส่งออก
ซึ่งเป็นสินค้าจำาพวกเคมีภัณฑ์ และขอร้องให้จัดทำาให้ตู้คอนเทนเนอร์มีสภาพที่ดีก่อนบรรจุ
ผลิตภัณฑ์ส่งออก เนื่องจาก Forwarder ไม่มีช่างที่สามารถซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ได้ จึงได้ว่า
จ้างให้พนักงานช่างของบริษัทผู้ส่งออกซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ให้ โดยใช้เวลาช่วงหลังงานเลิกแล้ว
ลงมือซ่อม การว่าจ้างนั้นผ่านหัวหน้างานของช่างเหล่านั้นด้วย และกระทำาการซ่อมในอาณา
บริเวณของบริษัท ในการรับเงินว่าจ้างก็ใช้อัตรา ๑.๕ เท่าของค้าจ้างปกติของพนักงานช่าง
เหล่านั้น เมื่อรับเงินก็ต้องลงนามรับพร้อมถ่ายบัตรประชาชนมาประกอบการรับเงินค่าซ่อม
ตู้คอนเทนเนอร์ทุกคราวไป วันดีคืนดีมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารจากต่างประเทศมาดูแล
งานแทนกรรมการผู้จัดการคนเก่า และพบเห็นเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด จึงฟันธงว่า
พนักงานช่างเหล่านี้พร้อมหัวหน้างานประพฤติผิดประมวลจริยธรรมในการทำางานของบริษัท
เพราะรับเงิน หรือสิทธิประโยชน์ใดๆ จากคู่ค้าร่วม ต้องการให้ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล
เลิกจ้างพนักงานเหล่านี้ทั้งหมด ถามว่า พนักงานช่างและหัวหน้างานผิดประมวลจริยธรรม
ดังกล่าวหรือไม่ ขอตอบว่า ผิดแน่นอน อย่างไรก็ตามผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลผู้นั้นเห็นถึง
ความไม่เป็นธรรม หากจะบังคับใช้ประมวลจริยธรรมนั้นอย่างเถรตรง จึงขอให้ผู้เขียนทำาความ
เห็นทางกฎหมาย (Legal Opinion) ในกรณีดังกล่าวในนามของสำานักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง
๔๓. มาตรา ๒๔ แห่งพระราบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑.
๔๔. คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๐๔/๑๕๒๙.
174 เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕