Page 237 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 237

ดุลพาห




            ปรับจำาเลยทั้งสองในการกระทำาความผิดฐานนี้ด้วยย่อมเพิ่มโทษปรับได้ เพราะเป็นกรณีมีการ
            ลงโทษในการกระทำาความผิดฐานนี้ถึงจำาคุก มิใช่ลงโทษฐานนี้เพียงปรับสถานเดียว



            คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๕๔/๒๕๔๗


                     ความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ มีปริมาณคำานวณเป็นสารบริสุทธิ์
            ตั้งแต่ปริมาณที่กำาหนดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรค

            สาม แต่ไม่เกินยี่สิบกรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำาหน่ายตามมาตรา ๖๖ วรรคสอง มีโทษทั้ง
            จำาคุกและปรับ ซึ่งตามมาตรา ๑๐๐/๑ กำาหนดให้ศาลลงโทษจำาคุกและปรับด้วยเสมอ โดยคำานึง

            ถึงการลงโทษในทางทรัพย์สินเพื่อป้องปรามการกระทำาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

            ทั้งโทษปรับเป็นโทษชนิดหนึ่ง ดังนั้น การเพิ่มโทษที่จะลงแก่จำาเลยตามมาตรา ๙๗ จึงต้อง
            เพิ่มโทษทั้งโทษจำาคุกและโทษปรับ



            คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๑๓/๒๕๔๙

                     โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำาเลยที่ ๑ เคยต้องคำาพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นให้ลงโทษ

            จำาคุก ๑๒ เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำาเลยที่ ๑

            กลับมากระทำาความผิดในคดีนี้อีกภายใน ๕ ปี นับแต่วันพ้นโทษ แต่ตามคำาขอท้ายฟ้องโจทก์
            คงระบุเพียงว่าขอให้เพิ่มโทษตามกฎหมาย โดยมิได้ระบุให้ชัดว่าประสงค์ให้เพิ่มโทษตาม
            กฎหมายใด จึงต้องตีความให้เป็นคุณแก่จำาเลยที่ ๑ ว่าโจทก์ประสงค์ให้เพิ่มโทษจำาเลยที่ ๑

            ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒


                     โทษปรับเป็นโทษสถานหนึ่ง เมื่อศาลอุทธรณ์ได้ลงโทษจำาคุกและลงโทษปรับจำาเลย
            ที่ ๑ ในคดีหลังด้วย การเพิ่มโทษที่จะลงโทษแก่จำาเลยที่ ๑ จึงเพิ่มโทษปรับได้ด้วย


                     โทษปรับเป็นโทษสถานที่เบากว่าโทษจำาคุก การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำาคุก
            แล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ปรับอีกสถานหนึ่ง แต่ให้รอการลงโทษจำาคุกจึงไม่เป็นการ

            เพิ่มเติมโทษจำาเลย












            226                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241   242