Page 239 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 239

ดุลพาห




            แต่การชำาระเงินค่าปรับหรือการบังคับโทษปรับเป็นการใช้อำานาจรัฐเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม
            ทางอาญา โดยศาลและพนักงานอัยการเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายเพื่อให้จำาเลยที่ ๑ ชำาระค่าปรับ

            ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ โดยไม่จำาต้องยื่นคำาขอรับชำาระหนี้

            ต่อผู้คัดค้านเช่นเดียวกับหนี้เงินในคดีแพ่ง มิฉะนั้นแล้วการลงโทษทางอาญาจะไม่ต้องตาม
            เจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะกฎหมายอาญาจัดเป็นกฎหมายมหาชนว่าด้วยความผิดและ

            โทษทางอาญาเป็นบทบัญญัติถึงความเกี่ยวพันระหว่างเอกชนกับรัฐ ทั้งการกระทำาความผิด
            นั้นยังได้ชื่อว่ากระทบกระเทือนต่อมหาชนเป็นส่วนรวม จึงไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติ

            ล้มละลายซึ่งผู้ร้องจะต้องยื่นคำาขอรับชำาระหนี้

                     การบังคับโทษปรับด้วยวิธียึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของ

            ผู้ต้องโทษปรับเพื่อใช้ค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙/๑ ให้ศาลมีอำานาจออก
            หมายบังคับคดี และให้นำาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม

            โดยให้เจ้าพนักงานศาลที่ได้รับแต่งตั้งและพนักงานอัยการเป็นผู้มีอำานาจหน้าที่ในการดำาเนิน

            การบังคับคดี แต่การบังคับโทษปรับตามกฎหมายเฉพาะบางฉบับกำาหนดบุคคลที่มีหน้าที่
            ในการดำาเนินการบังคับคดีแตกต่างออกไป เช่น พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด

            พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๑ วรรคสอง กำาหนดให้สำานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
            ยาเสพติดมีอำานาจตรวจสอบทรัพย์สินและให้ถือว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำาพิพากษาในการบังคับคดี

            โทษปรับในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
































            228                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   234   235   236   237   238   239   240   241   242   243   244