Page 103 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 103
๘๕
๑) เนื้อหาจากเอกสารขั้นปฐมภูมิ (Primary source) คือ พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๓๙ อาทิเช่น โกธนสูตร ฆัตวาสูตร อักโกสกสูตร
ทุพพัณณิยสูตร วิตักกสัณฐานสูตร เป็นต้น
๒) เนื้อหาจากเอกสารขั้นทุติยภูมิ (Secondary source) ได้แก่ อรรถกถา ฎีกา ปกรณ
วิเสส หนังสือตำราพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่เกี่ยวกับความโกรธหรือโทสะ
๓) เนื้อหาการจัดการความโกรธทางจิตวิทยาตามแนวคิด สปิลเบอร์เกอร์ (Spielberger)
และโนวาโค (Novaco)
๓.๒.๔ เก็บรวบรวมเอกสำร
การเก็บรวบรวมเอกสารนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและมีการ
จัดเก็บอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ดังนี้
๑) กำรจัดระเบียบเอกสำร ผู้วิจัยจัดใช้ใช้ซอฟต์แวร์จัดการเอกสาร แบ่งเป็น ๒ หมวด
หมวดหมู่ คือ ๑. จิตวิทยา ๒. พระพุทธศาสนา และแต่ละหมวดหมู่แยกเอกสารจากวิจัย บทความ
ิ
ุ
หนังสือ/คัมภีร์พระพทธศาสนา และเว็ปไซต์ โดยระบุแหล่งที่มาอย่างถูกต้องตามหลักการอ้างอง ของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เช่น พระไตรปิฎกและอรรถกถา ให้อ้างชื่อคัมภีร์/เล่มที่/
ข้อที่/ เลขหน้า เป็นต้น
๒) กำรบันทึกข้อมล ผู้วิจัยใช้ระบบการบันทึกด้วยไฟล์ดิจิทัล สำหรับการวิจัยนี้ผู้วิจัยใช้
ู
โปรแกรม EndNote ช่วยในการจัดเก็บและบันทึกข้อมูล ด้วยเหตุผลว่าเป็นโปรแกรมสำหรับการ
บริหารจัดการรายการอ้างอิงผลงานวิชาการ บทความวิชาการ หรือวิทยานิพนธ์
๓.๒.๕ วิเครำะห์เอกสำร
ผู้วิจัยใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis) เพื่อให้ได้เนื้อหาและบริบทที่
สำคัญในเอกสารทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ
๓.๒.๖ ตีควำมเอกสำร
ผู้วิจัยจะใช้การตีความข้อมูลที่ได้จากเอกสารโดยการเชื่อมโยงกับนิยามศัพท์ทั่วไปที่ใช้ใน
การวิจัย (General Definition) และนิยามศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการวิจัย (Specific Definition)
โดยเฉพาะโดยเฉพาะความนัยที่แฝง (Latent message) ในเนื้อหา แต่ไม่ได้ถูกเขียนไว้ พบได้มากใน
พระสูตรต่างๆและทฤษฎีหรือแนวคิดทางจิตวิทยาสมัยใหม่เสริมความให้สมบูรณ์มากขึ้นโดยถ่ายทอด
เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารในสังคมปัจจุบัน

