Page 101 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 101

บทที่ ๓



                                                       วิธีด ำเนินกำรวิจัย



                                 การวิจัยในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และการจัดการความโกรธทาง
                                                  ั
                       จิตวิทยา เพ่อศึกษาหลักธรรมระงบความโกรธในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทและเพื่อบูรณาการการ
                                 ื
                       จัดการความโกรธตามหลักจิตวิทยาด้วยหลักธรรมในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท มีวิธีดำเนินการ
                       วิจัยและขั้นตอนดำเนินการวิจัย ดังต่อไปนี้


                                 ๓.๑ รูปแบบการวิจัย (Research Design)
                                 ๓.๒ ระยะที่ ๑ การออกแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research Design)

                                 ๓.๓ ระยะที่ ๒ การออกแบบการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research Design)

                       ๓.๑ รูปแบบกำรวิจัย


                                 การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี (Mixed Methods Research) ประเภทการวิจัยแบบ

                       ขั้นตอนเชิงสำรวจ (Exploratory Sequential Design) โดยผลลัพธ์ที่ได้สำหรับการวิจัยนี้คือการ
                       สร้างองค์ความรู้และการพัฒนาเทคนิควิธีการจัดการความโกรธในรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการ บูรณา

                                                            ุ
                       การศาสตร์ทางจิตวิทยาและศาสตร์ทางพระพทธศาสนา โดยการวิจัยแบ่งออกเป็น ๒ ระยะ ดังนี้
                                     ระยะที่ ๑ (Phrase I) เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) สำหรับการ

                       วิจัยนี้ใช้รูปแบบการศึกษาเชิงเอกสาร (Documentary Study) เพื่อทำความเข้าใจกับความหมาย

                       นิยามศัพท์ ประเภท ทฤษฎี และวิธีการควบคุมความโกรธทั้งสองศาสตร์คือ ศาสตร์ทางจิตวิทยาและ
                       ศาสตร์ทางพุทธศาสนาที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อนำมาสร้างกรอบแนวคิดองค์

                       ความรู้จากการวิจัย (Knowledge Concept) การจัดการความโกรธตามหลักจิตวิทยาด้วยหลักธรรม
                       ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท


                                     ระยะที่ ๒ (Phrase II) เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) ใช้รูปแบบ
                       การศึกษาเชิงสำรวจ (Survey Study) เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวแบบหรือโมเดลองค์ความรู้ที่ได้จาก

                       การวิจัยเชิงคุณภาพว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

                       อย่างไร โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์สมการความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง (Structural Equation
   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106