Page 118 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 118

๑๐๐



                       Frames) ที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นผู้วิจัยจัดกลุ่มรหัส (Families) ของข้อมูล แล้วทำแผนภาพ
                       ความสัมพันธ์ขององค์ความรู้ (Knowledge Conceptual Diagram)


                                       (๓) กำรหำข้อสรุป (Conclusions)

                                       ผู้วิจัยหาข้อสรุปของการวิจัยเชิงคุณภาพจากแผนภาพความสัมพันธ์ขององค์ความรู้

                       โดยการวิเคราะห์แบบของความหมาย (Meaning of Pattern) วิเคราะห์ลักษณะโครงสร้าง
                       (Structure Feature) แปลความหมายของปรากฏการณ์ (Interpret) จัดการเรียบเรียงระบบข้อมูล

                       ใหม่อีกครั้ง (Organize the Data) สุดท้ายได้ข้อสรุป (Conclusions) ตามวัตถุประสงค์การวิจัย
                       จากนั้นส่งข้อสรุปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์


                                 ๒) กำรวิเครำะห์ข้อมูลเชิงปริมำณ

                                 ผู้วิจัยใช้ข้อมูลจากแบบสำรวจออนไลน์จำนวนตัวอย่างตามขนาดตัวอย่างที่ได้คำนวณไว้

                       โดยมีขั้นตอนการวิเคราะห์ดังนี้

                                     (๑) การทำ Cleaning data ตรวจสอบแบบสำรวจออนไลน์ทุกฉบับต้องมีความ

                                       ่
                       ครบถ้วนสมบูรณ์ ไมมี Missing data และใช้เกณฑ์การคัดตัวอย่างออก (Exclusion criteria) คือ ๑.
                       แบบสำรวจตอบแบบสำรวจได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และ ๒. แบบสำรวจตอบข้อคำถามแบบเดาสุ่ม


                                     (๒) วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่
                       (Frequency Distribution) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic mean) ค่า

                       ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

                                     (๓) วิเคราะห์ข้อมูลตามข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุ

                       (Factor analysis) ได้แก่ค่าความเบ้ (Skewness) ไม่เกิน ๓.๐ ค่าความโด่ง (Kurtosis) ไม่เกิน
                          ๑๒
                       ๗.๐  ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Person’s Product-Moment Correlation
                       Coefficient) และการทำสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติที (t-test)

                                     (๔) ประเมินความสอดคล้องระหว่างโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ นำโมเดลจาก

                       กรอบความสัมพันธ์ขององค์ความรู้ (Knowledge Conceptual Diagram) ที่ผู้วิจัยสร้างจากการ

                       บูรณาการการจัดการความโกรธตามหลักจิตวิทยาด้วยหลักธรรมในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท
                       นำมาทดสอบกับข้อมูลการสำรวจจำนวน ๓๔๑ ตัวอย่าง ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิง






                                 ๑๒  Curran, P. J., West, S. G., & Finch, J. F., “The robustness of test statistics to
                       nonnormality and specification error in confirmatory factor analysis, Psychological Methods”,
                       American Psychological Association, Vol. 1 No. 1 (1996): 16-29.
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123