Page 119 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 119
๑๐๑
ยืนยัน (Explanatory Factor Analysis) เพื่อยืนยันว่าองค์ประกอบตามกรอบแนวคิดวิจัยมีความ
สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์
๓) กำรวิเครำะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis)
์
(๑) วิเครำะหข้อตกลงเบื้องต้นของกำรใช้สถิติกำรวิเครำะห์องค์ประกอบ
การวิเคราะห์องค์ประกอบมีข้อตกลงเบื้องต้นของการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิง
๑๓
ยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis) ดังนี้
๑. ตัวแปรที่คัดเลือกมาวิเคราะห์องค์ประกอบ ต้องเป็นตัวแปรที่มีค่าต่อเนื่อง
หรือมี ค่าในมาตราระดับช่วง (Interval scale) และมาตราอัตราส่วน (Ratio scale) เนื่องจากการ
วิเคราะห์องค์ประกอบ ตัวแปรที่คัดเลือกมาวิเคราะห์องค์ประกอบควรมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
๒. ตัวแปรที่คัดเลือกมาวิเคราะห์องค์ประกอบ ควรมีความสัมพันธ์ระหว่างตัว
แปรใน ระดับสูง (r = ๐.๓ – ๐.๗) และตัวแปรมีความสัมพันธ์เชิงเส้น (linear) เท่านั้น
๓. จำนวนตัวแปร ควรมีจำนวนอย่างน้อย ๓๐ ตัวแปร
๔. กลุ่มตัวอย่าง ควรมีขนาดใหญ่และควรมีมากกว่าจำนวนตัวแปร นักสถิติได้
เสนอแนะว่าจำนวนข้อมูลมากกว่าจำนวนตัวแปรอย่างน้อย ๕ - ๑๐ เท่า
๕. กรณีที่ใช้เทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (Principle component
analysis) ตัวแปรแต่ละตัวอาจไม่จำเป็นต้องมีการแจกแจงแบบปกติ แต่ถ้าตัวแปรบางตัวมีการแจก
แจงเบ้ค่อนข้างมาก และมีค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดผิดปกติ (Outlier) ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ถูกต้อง
(๒) เกณฑ์กำรก ำหนดจ ำนวนขนำดตัวอย่ำงเพื่อใช้วิเครำะห์องค์ประกอบ
การใช้สถิติการวิเคราะห์องค์ประกอบนักสถิติได้ประมาณจำนวนตัวอย่างที่เหมาะสม
สำหรับใช้วิเคราะห์องค์ประกอบ รายละเอียดตามตารางที่ ๓.๑ ดังนี้
ตำรำงท ๓.๑ กำหนดขนาดตัวอย่างที่ใช้ในการวิเคราะห์องค์ประกอบ
ี่
แนวคิดกำรประมำณขนำดตัวอย่ำง เสนอแนะขนำดตัวอย่ำง (n) และเหตุผล
๑ พิจารณาการใช้ขนาดตัวอย่างสำหรับวิเคราะห์องค์ประกอบอย่างเดียว
ื
๑.๑ ตามกฎหัวแม่มอหรือกฎอย่างง่าย (rule of ๑.๑) การวิเคราะห์องค์ประกอบควรมีขนาด
thumb) ตัวอย่างอย่างน้อย ๓๐๐ ราย
๑๓ Kline, R.B., Principles and practice of structural equation modeling, pp. 3-
427.

