Page 125 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 125

๑๐๗



                                          ๓.๑ สกัดตัวแปร การสกัดตัวแปรมีหลายวิธี สำหรับการวิจัยนี้ใช้วิธีวิเคราะห์
                       องค์ประกอบหลัก (Principal Component Analysis: PCA) และใช้ KMO and Bartlett's Test

                                                                                        ๓๕
                       พิจารณาความเหมาะสมของข้อมูลที่ต้องมีค่าน้ำหนักองค์ประกอบไม่ต่ำกว่า ๐.๔
                                               ๓.๒  ตรวจสอบความปกติ (Normality) ของข้อมูลรายตัวแปร ทั้งนี้ตัวแปรที่

                       ศึกษามีการกระจายตัวอย่างเหมาะสมหรือไม่ โดยวัดค่าสัมบูรณ์ ค่าความเบ้ (Skewness) และค่า
                       ความโด่ง (Kurtosis) โดยค่าสัมบูรณ์ค่าความเบ้จะต้องน้อยกว่า ๓ และค่าค่าสัมบูรณ์ความโด่งจะต้อง

                                ๓๖
                       น้อยกว่า .๘
                                                             ั
                                             ๓.๓ ตรวจสอบความสัมพนธ์ระหว่างตัวแปร โดยการวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์
                       สหสัมพันธ์เพยร์สัน (r) ระหว่างตัวบ่งชี้ของแต่ละองค์ประกอบจะต้องมีค่าน้อยกว่า ๐.๘ เพื่อไม่ให้เกิด
                                  ี
                       ปัญหาภาวะร่วมเส้นตรงพหุ (Multicollinearity Problem)

                                            ิ
                                            ๔. วเครำะห์โมเดลสมกำรควำมสัมพันธ์เชิงโครงสร้ำง (Structural
                       Equation Model) เพื่อตรวจสอบความตรงเชิงโครงสร้างของแบบจำลองมีขั้นตอนดังนี้


                                        ๔.๑ กำหนดตัวแปรในแต่ละองค์ประกอบของแบบจำลอง

                                        ๔.๒ ระบุความเป็นไปได้ของแบบจำลองว่าสามารถประมาณค่าพารามิเตอร์ ได้

                       เป็นค่าเดียวหรือไม่

                                        ๔.๓ ประมาณค่าพารามิเตอร์จากแบบจำลองด้วยวิธีประมาณค่าไลค์ลี่ฮู้ดสูงสุด

                       (Maximum likelihood)

                                        ๔.๔ ทดสอบความกลมกลืนสอดคล้อง (Goodness of Fit Test) เพื่อทดสอบ

                       ความตรงของแบบจำลองโดยใช้ค่าสถิติทดสอบความกลมกลืนของแบบจำลอง

                                        ๔.๕ ปรับแบบจำลอง (Model Adjustment) ในกรณีที่แบบจำลองไม่มีความ

                       สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ปรับแก้แบบจำลองเพื่อให้มีการประมาณค่าพารามิเตอร์ขึ้นใหม่
                       จนกว่าแบบจำลองที่ปรับแก้สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์


                                        ๔.๖ แปลความหมายผลการวิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบสมมติฐานโดยหา
                       ความสัมพันธ์และทิศทางระหว่างองค์ประกอบจากแบบจำลองที่สร้างขึ้น







                                 ๓๕  Ibid., p. 117.
                                 ๓๖  Kline, R.B., Principles and practice of structural equation modeling, pp. 3-

                       427.
   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130