Page 180 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 180

๑๖๐



                       ของบุคคลให้มีแนวคิดที่เป็นประโยชน์มากขึ้น เช่นการฝึกคิดในแง่บวก (Positive) การคิดสร้างสรรค์
                                                             ิ
                       (Creative) แทนที่ความคิดในแง่ลบด้วยความคดในแง่บวกหรือเป็นกลาง สำหรับทางพระพุทธศาสนา
                       จัดการกับความคิดโดยใช้หลักโยนิโสมนัสสิการและปรโตโฆษะ วิธีการทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันคือ
                       เพื่อหามุมมองที่สมเหตุสมผลและเป็นบวกต่อการเผชิญกับความโกรธได้ด้วยใจเป็นกลางหรือด้วย

                       ความสงบ

                                     จิตวิทยาเลือกใช้การปรับเปลี่ยนความคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดที่ไม่เหมาะสม

                       และก่อให้เกิดความโกรธ สำหรับพระพุทธศาสนาเลือกใช้หลักโยนิโสมนัสสิการและปรโตโฆษะ คือใช้

                       ปัญญาพิจารณาอย่างแยบคาย คิดอย่างรอบคอบ เพื่อพัฒนาปัญญาและการมีสติสัมปชัญญะในการหา
                       วิธีระงับความโกรธด้วยหลักเมตตาธรรม


                                     ๔. การสื่อสารที่ดี (Better Communication) การสื่อสารที่ดีทางจิตวิทยา
                       ยอมรับความโกรธที่เกิดขึ้นแล้วพยายามควบคุมโดยใช้คำพดที่สุภาพนุ่มนวลและให้เกียรติต่อผู้ที่ทำให้
                                                                       ู
                       โกรธเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือทำร้ายกันด้วยวาจา ในขณะที่ทางพระพุทธศาสนานั้นเมื่อเกิด
                       ความโกรธจะใช้วิธีการสื่อสารด้วยความสัตย์จริง วิธีการทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อให้เกิด

                       ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในขณะสนทนา

                                     จิตวิทยาเลือกใช้การสื่อสารเชิงบวก (Positive Communication) การใช้คำที่

                       สุภาพเรียกชื่อ "คุณ" หรือ “ท่าน” และ ใช้คำขอบคุณ ขอโทษ ขออภัย ในการสื่อสาร แต่ไม่ควรใช้คำ

                       ว่า ไม่ได้ ไม่ใช่ ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการสื่อสารที่แฝงด้วยการปฏิเสธความคิดเห็นของคู่สนทนา
                       สำหรับพระพุทธศาสนาเลือกใช้การสื่อสารด้วยปิยวาจามีสัจจะคือพูดแต่ความจริง ตรงไปตรงมา ไม่

                       พูดโกหก และมีเมตตาจิตในการสื่อสาร

                                     ๕. การให้อภัย (Forgiveness) การให้อภัยเป็นเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดในการ

                       จัดการความโกรธของบุคคล การให้อภัยไม่ได้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความอ่อนแอ พ่ายแพ้ และความกลัว

                       ส่วนการให้อภัยได้เป็นการตอบสนองทางอารมณ์ สติปัญญา และศีลธรรมในการปฏิบัติต่อผู้อ่น  การ
                                                                                                   ื
                       ให้อภัยจึงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและฝึกฝน โดยเริ่มจากการเข้าใจความแตกต่าง

                       ระหว่างบุคคล และเคารพในสิทธิของผู้อื่น รวมถึงความรู้สึกเห็นใจ (empathy)

                                     จิตวิทยาให้ฝึกการให้อภัย ขั้นแรกต้องฝึกการเข้าใจสภาวะอารมณ์โกรธของตนเอง

                                                     ึ
                       สาเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ รวมถงผลกระทบจากอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้นทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ขั้นที่
                       สอง ต้องฝึกให้อภัยตนเอง เพราะการปล่อยให้ตัวเองอยู่กับอารมณ์ในแง่ลบ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมาก

                       ที่สุดคือตนเอง ยิ่งอยู่กับอารมณ์ลบมากเท่าไหร่ ความสุขในชีวิตย่อมลดลงตาม และ ขั้นที่สาม ต้องฝึก

                       การให้อภัยบุคคลอ่น ต้องยอมรับว่าความโกรธนั้นเกิดอยู่ที่ใจตนเอง ไม่ได้เกิดจากบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น
                                      ื
                       ใด เพราะจากกระบวนการเกิดอารมณ์ บุคคล สิ่งต่าง รวมถึงเหตุการณ์ใด ๆ ล้วนเป็นเพียงสิ่งเร้า
   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184   185