Page 44 - alro46
P. 44
ื
�
ี
�
ป่าดังกล่าวมีสองสถานะ คือ ป่าไม้ถาวรและป่าสงวนแห่งชาติ แต่ถ้าเจ้าหน้าท่ได้ไปทาการสารวจเบ้องต้น
ึ
เก่ยวกับสภาพป่าและชนิดไม้พบว่า มีพื้นท่ป่าหน่งป่าใดหรือบางส่วนยังมีสภาพป่าท่สมบูรณ์และ
ี
ี
ี
ื
ี
ึ
มีไม้มีค่าข้นอยู่มาก แม้ว่าพ้นท่ดังกล่าวจะอยู่นอกเขตป่าท่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร
ี
�
ั
ี
ี
�
ก็อาจมีการกาหนดพ้นท่ป่าน้นเป็นป่าสงวนแห่งชาติได้ ท้งน้การออกกฎกระทรวงกาหนดป่าสงวนแห่งชาต ิ
ื
ั
ต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตป่าที่ก�าหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย
1.3 กำรเพกถอนป่ำสงวนแห่งชำติ
ิ
ั
การเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติไม่ว่าท้งหมดหรือแต่บางส่วน มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัต ิ
ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ให้กระท�าได้โดยการออกกฎกระทรวง แต่ในกรณีที่มีการเพิกถอนบางส่วน
ต้องมีแผนที่แสดงแนวเขตที่เพิกถอนแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย
็
ิ
2. ควำมเปนมำและเงื่อนไขในกำรเพกถอนป่ำสงวนแห่งชำติและ
ื
น�ำที่ดินมำด�ำเนินกำรปฏิรูปที่ดินเพ่อเกษตรกรรม
�
ื
ี
การศึกษาและทาความเข้าใจเก่ยวกับความเป็นมาและเง่อนไขในการเพิกถอนป่าสงวน
แห่งชาติและนาท่ดินมาดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมภายใต้พระราชบัญญัติการปฏิรูปท่ดิน
ี
ื
ี
ี
�
�
เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้
2.1 ช่วงเวลำภำยหลังประกำศใช้พระรำชบัญญัติกำรปฏิรูปที่ดิน
ื
เพ่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
ี
สืบเน่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะท่ 5) ให้ความเห็นไว้
ื
ื
ในเร่องเสร็จท่ 473/2524 ความว่า “การปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมมีลักษณะต่อเนื่องหรือเป็นการถาวร
ื
ี
ี
ั
ไม่ใช่เร่องช่วคราว อธิบดีกรมป่าไม้จึงไม่อาจอาศัยอานาจตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัต ิ
ื
�
2
ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 อนุญาตให้ ส.ป.ก. เข้าดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมในพ้นท ่ ี
ี
�
ื
ื
�
ี
ี
ื
ป่าสงวนแห่งชาติได้” การดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมในพ้นท่ป่าสงวนแห่งชาติในช่วงเวลาน ้ ี
ื
จึงต้องด�าเนินการออกกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติ
ี
ื
ี
ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เพ่อให้ท่ดินกลายเป็นท่ดินรกร้างว่างเปล่านอกเขตป่าสงวนแห่งชาต ิ
�
�
และทาให้ ส.ป.ก. มีอานาจเข้าดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมตามความในมาตรา 26 (3)
�
ื
ี
แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518
2 มาตรา 16 วรรคหน่งแห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 บัญญัติว่า “อธิบดีโดยอนุมัติรัฐมนตร ี
ึ
มีอานาจอนุญาตให้บุคคลใดเข้าท�าประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้เป็น การช่วคราว ภายในระยะ
�
ั
เวลาและตามเงื่อนไขที่ก�าหนดในหนังสืออนุญาต”
45 ป ส.ป.ก. อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข 31
ี