Page 45 - alro46

2.2 ช่วงเวลำภำยหลังกำรแก้ไขเพ่มเติมพระรำชบัญญัติกำรปฏิรูปที่ดิน
ิ
ื
เพ่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยพระรำชบัญญัติกำรปฏิรูปที่ดิน
ื
เพ่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532
ื
ึ
เน่องจากการออกกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติเป็นไปด้วยความล่าช้าจงม ี
ี
ื
การยกเลิกมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และให้ใช้
ความใหม่แทน โดยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532
ซ่งเม่อพิจารณาบทบัญญัติตามความในมาตรา 26 (4) ท่มีการยกเลิกและบัญญัติใหม่ดังกล่าว
ึ
ี
ื
3
ี
�
�
พระราชกฤษฎีกากาหนดเขตปฏิรูปท่ดินจะมีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ และทาให้ ส.ป.ก.
�
�
ื
ี
ี
�
มีอานาจนาท่ดินมาดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรม โดยไม่ต้องดาเนินการออกกฎกระทรวง
�
เพิกถอน ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เมื่อมีองค์ประกอบครบอีก 2 ประการ ดังนี้
ื
2.2.1 เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ด�ำเนินกำรปฏิรูปที่ดินเพ่อเกษตรกรรม
ในที่ดิน เขตป่ำสงวนแห่งชำติส่วนใด แยกผลการศึกษา ดังนี้
ี
2.2.1.1 พ้นท่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติท่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ ส.ป.ก. นามา
ี
ื
�
ด�าเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แบ่งออกได้เป็น 2 พื้นที่ตามเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรี ก�าหนด ดังนี้
1) พนทในเขตป่าสงวนแห่งชาตตามมติคณะรฐมนตรเมอวนท ่ ี
ี
ั
ิ
้
ื
่
ี
ั
่
ื
ี
่
ื
ี
�
ิ
ั
ั
ั
ู
้
30 มีนาคม 2536 ประกอบด้วย พนทรองรบตามโครงการจดท่ทากนให้กบราษฎรผ้ยากไร้ในพ้นท ่ ี
ื
ี
ั
�
ี
ื
ื
ป่าเส่อมโทรม (คจก.) เดิมท้งหมดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ้นท่ป่าสงวนแห่งชาติท่จาแนกออก
จากป่าไม้ถาวร ซ่งได้ผ่านการตรวจสภาพป่าของคณะกรรมการพัฒนาท่ดิน พ้นท่ท่อยู่ในโครงการ
ี
ึ
ี
ื
ี
ื
ออกเอกสารสิทธิให้กับราษฎรในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (สทก.) และพ้นท่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติท่ถูก
ี
ี
ี
ื
ื
จาแนกเขตการใช้ประโยชน์ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่อวันท่ 10 และ 17 มีนาคม 2535 เป็นเขตพ้นท ี ่
�
ที่เหมาะสมกับการเกษตร
ั
ท้งน้ คณะรัฐมนตรีให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็น
ี
และข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเม่อวันท่ 24 มีนาคม 2536 ท่ว่า “หากในทาง
ื
ี
ี
ี
ี
�
ื
ปฏิบัติตรวจสอบพบว่า บริเวณใดมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ควรดาเนินการกันพ้นท่ออกจากเขตปฏิรูปท่ดิน”
ไปด�าเนินการด้วย
3 มาตรา 26 (4) แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติ
ี
ื
ี
การปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรม (ฉบับท่ 3) พ.ศ. 2532 บัญญัติว่า “ถ้าเป็นท่ดิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาต ิ
ี
เม่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรมในท่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติส่วนใดแล้ว
ื
�
ื
ี
ี
ื
�
ื
เม่อ ส.ป.ก. จะนาท่ดินแปลงใดในส่วนน้นไปดาเนินการปฏิรูปท่ดินเพ่อเกษตรกรรม ให้พระราชกฤษฎีกากาหนด
�
ั
ี
�
ี
�
�
ั
เขตปฏิรูปท่ดินมีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติในท่ดินแปลงน้น และให้ ส.ป.ก. มีอานาจนาท่ดินน้นมาใช้
ี
ี
ี
ั
ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้โดยไม่ต้องด�าเนินการเพิกถอนตามกฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ”
32 45 ป ส.ป.ก. อยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข
ี