Page 25 - e-book 35 years
P. 25
กฐินสามัคคีครบรอบ ๓๕ ปี
“ ถ้าดิฉันจะถวายจีวร จะรับไหม”
เพรำะจีวรของพระอำจำรย์นั้น สบงสีหนึ่ง จีวรอีกสีหนึ่ง สังฆำฏิก็อีกสีหนึ่ง
ิ
ี
คนละสีเลย ไม่เข้ำชุดกันเพรำะท่ำนเก็บจำกของเก่ำท่เขำท้ง มำซักท�ำควำมสะอำด
แล้วเอำมำใช้
หลังจำกกลับมำที่ถ�้ำพุทธโคดม ทุกๆ วันหลังบิณฑบำตและฉันอำหำรเสร็จ
ท่ำนก็จะน่งท่ชะง่อนหิน หันหน้ำมองไปทำงตรัง รอว่ำเม่อไหร่จะออกพรรษำ
ี
ั
ื
หลังออกพรรษำแล้ว ท่ำนก็มุ่งไปท่ส�ำนักวิปัสสนำพัฒนำทำงจิตอีกคร้ง ต้งใจจะ
ั
ี
ั
ี
ู
ขอปฏิบัติธรรมกับท่ำนแม่คร แต่ก็ไม่ได้คิดว่ำจะอยู่ท่ส�ำนักฯ นำน แต่กว่ำท่ำน
จะได้พบท่ำนแม่ครูก็ต้องใช้เวลำนำนถึง ๓ เดือน ทั้งที่กุฏิก็ห่ำงกันไม่ถึงร้อยเมตร
ู
ึ
ี
แต่ก็ไม่เคยได้พบท่ำนแม่คร จนวันหน่ง ขณะท่พระอำจำรย์ก�ำลังทำสีปรับปรุง
โรงทำน ท่ำนแม่ครูก็มำที่โรงทำนแล้วถำมว่ำ
“ พระคุณเจ้า จะเป็นการเสียศักดิ์ศรีไหมถ้าดิฉันจะถวายความรู้”
ในใจพระอำจำรย์ขณะนั้นรู้สึกดีใจมำก จึงตอบไปว่ำ
“ อาตมาไม่มีศักดิ์ศรี”
ี
ื
ท่ำนแม่ครูจึงได้นิมนต์พระอำจำรย์มำท่ศำลำธรรมรัตนะเพ่อถวำยควำมรู้
เป็นครั้งแรก
ท่ำมกลำงหมู่โยคีภำยในศำลำธรรมรัตนะ ท่ำนแม่ครูนิมนต์พระอำจำรย์
หันหลังให้กระดำน แล้วท่ำนก็เขียนค�ำตอบเฉลยล่วงหน้ำไว้บนกระดำน หลังจำกน้น
ั
ื
่
ิ
จึงเรมให้พระอำจำรย์ปฏิบัติตำมทท่ำนบอก แล้วตอบค�ำถำมท่ำนทีละข้อ เมอ
่
ี
่
จบค�ำถำมแล้ว พระอำจำรย์จึงได้หันมำดูค�ำตอบบนกระดำน ปรำกฎว่ำตอบได้
ถูกทุกข้อ เป็นที่ฉงนแก่บรรดำโยคีในส�ำนักที่ร่วมเป็นประจักษ์พยำนในวันนั้น
26