Page 198 - เพชรพระอุมา เล่ม 1
P. 198

198



                   ใหคาไวบนกับดักของผมที่งับติดตีนมัน   ไมเคยปรากฏวามีสัตวชนิดใดเหี้ยมอํามหิตถึงขนาดนี้

                   แมแตพวกกระทิงหรือชาง”
                            “รายกาจจริงๆ ผมก็เพิ่งจะไดยินครั้งนี้เปนครั้งแรก”

                            ม.ร.ว.เชษฐาจุปากเบาๆ ครางออกมา ไชยยันตถามวา

                            “แลวเวลาคุณดักเสือเปนๆ เอามาขายใหคุณอําพล คุณมีวิธียังไง?”

                            “สวนมากก็ใชวิธีขุดหลุมตาขาย โดยใชเหยื่อละครับ หลุมที่จะใหมันตกลงไปก็มีลักษณะ

                   เหมือนหลุมพรางใชลอคนนี่เอง โดยขุดใหกวางลึกในทิศทางที่มันจะปรี่เขาใสเหยื่อ มีตาขายรองรับ
                   อยูเบื้องลาง  ขางบนปากหลุมมีใบไมอําพรางไว  พอมันหลนลงไปในหลุมกระทบตาขาย  กระเดื่อง

                   กลที่ทําไวก็จะตวัดตาขายใหรวบเขาหากัน  แลวหิ้วขึ้นมัดมันไวอยางแนนหนาที่สุด  ลอยอยูเหนือ

                   พื้น  นี่เปนวิธีเดียวที่จะดักเสือไดในสภาพที่ปลอดภัยเรียบรอยที่สุด  เพราะมันไมมีกําลังที่จะออก
                   ฤทธิ์อะไรได  พรานสมัยกอนเคยใชดักดวยกรง  พอประตูกรงปด  มันก็กระโจนดิ้นรนปะทะกรง

                   หนาตา เขี้ยว หรือเล็บของมันเองปนปเสียหายไปหมด เพราะการดิ้นรนตอสูเพื่อหาอิสรภาพของมัน

                   กลายเปนเสือมีตําหนิไป มันดิ้นอยางไมยอมคํานึงถึงตนเองเลยวา จะไดรับอันตรายอยางใด และวิธี
                   ดักดวยกรง พรานผูดักก็จะตองเสียเวลาขังทิ้งมันไวเชนนั้นนับเปนสิบๆ วัน เพื่อรอใหมันอดอาหาร

                   ออนแรงลงเต็มที่  แลวจึงสามารถเขามาทําการเคลื่อนยายได  ถารีบดวนมาเคลื่อนยายกรงในทันทีที่

                   ดักได และเสือยังมีกําลังอยู มันจะดิ้นชนิดที่ถากรงไมพัง ตัวมันเองก็พัง สวนมากพอดักติดเขาก็ทิ้ง
                   มันไวเลยเปนเวลาหลายๆ วันอยางที่บอกแลว โดยไมจําเปนตองใหอาหารอยางใดทั้งสิ้น และจะไม

                   โผลเขาไปใหมันเห็นเกิดการตื่นกลัวตกใจยุยั่วใหมันคิดดิ้นรนขึ้นมา  จนกวามันจะอดโซหมดกําลัง

                   จะตายมิตายแหลนั่นแหละ  ไมตองไปสงสารวามันจะอดอาหารตาย  เสืออยูไดนับเปนสิบๆ  วันโดย

                   ไมตองกินอะไรเลย”
                            คณะนายจางฟงการบอกเลาของพรานใหญอยางทึ่งๆ

                            “พรานบางคนเคยบอกผมวา เสือมันมีนิสัยชอบสอดรูสอดเห็น จริงหรือเปลา?”

                            เชษฐาถาม รพินทรยิ้ม กมศีรษะรับ

                            “จริงครับ มันมีนิสัยอยากรูอยากทดลองอยูเสมอ ผิดกับสัตวอื่น”
                            “หมายความวาไง  ที่วาเสือมันมีนิสัยอยากรูอยากทดลองนะ  ลักษณะยังไงของมันแสดง

                   บอกใหเห็นชัดงั้นหรือ?”

                            ไชยยันตซัก มีความกระตือรือรนที่จะขอศึกษาเรียนรูอยางเต็มที่
                            “ที่วามันอยากรูอยากเห็นก็คือ  เสือมักจะชอบสะกดตามหลังสัตวทุกชนิดแมกระทั่งคน

                   และคอยเฝาสังเกตอยูทุกขณะ โดยที่ไมจําเปนจะตองมีเจตนาเขาจูโจมทําราย สมมติวาคนเดินเขาปา

                   มันจะยองตามอยูหางๆ บางทีก็ออมไปสกัดดักอยูขางหนาโดยไมใหเรารูสึกตัว คลายๆ มันอยากจะรู
                   วาคนคนนั้นจะไปทําอะไรที่ไหน และในการยองตามดูของมันนี้ ไมไดหมายความวามันจะเลนงาน

                   คนเสมอไป อาจเพียงแคดูเฉยๆ เมื่อพอใจมันแลวมันก็ผละหลบไป นี่เปนอีกนิสัยหนึ่งที่ผิดจากสัตว



                   [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee (evol_oon@hotmail.com)
   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203