Page 66 - เพชรพระอุมา เล่ม 1
P. 66

66



                            “พบอะไรๆ หลายอยางที่เปนขอสงสัย แตยังไมเคยพูดใหใครฟงเลย ตามปกติเราขึ้นหาง

                   กันตั้งแตบายสี่โมง แลวก็แกรวทรมานอยูบนนั้นจนกวาจะรุงเชาของอีกวันหนึ่ง เทาที่ผมเคยยิงสัตว
                   ไดทุกครั้ง  เปนเวลาที่พระอาทิตยยังไมตกดิน  มีแสงสวางพอใหเห็นศูนยปน  แตพอมืดแลว  ผมไม

                   เคยยิงอะไรไดเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่สัตวมันเขามาใตหางมากมายกายกองไปหมด ไฟฉายที่สองออกไป

                   มักจะติดบังไพรของตัวหางเอง  หรือมิฉะนั้นก็ติดกิ่งไมใบไมเสียหมด  กวาจะพบตาสัตว  พวกมันก็
                   เปดอาวไปหมดแลว  หรือตอใหพบมัน  ผมก็ยังนึกไมออกวา  ในระหวางไฟฉายที่เราสองสะกดตา

                   สัตวไว และในระหวางปนที่เราพยายามจะเล็งศูนย มันคงอะหลุกขลุกขลักพิกล มันไมถนัดเลย และ

                   ผมเคยทําไฟฉายตกจากหางในเวลาฉุกละหุกนี่บอยๆ    คุณเคยพบกับความยุงยากในขอนี้บางไหม

                   หรือวาคุณมีวิธีแกไขยังไง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ผมก็ยังสงสัยนั่นเองวา พวกที่เขานั่งหางยิงสัตวกลางคืน
                   โดยใชฟายนั้นนะ  เขายิงสัตวไดโดยวิธีไหน  ถาหากบริเวณที่ขัดหางเปนทุงโลงก็เปนอีกเรื่องหนึ่ง

                   เพราะไมมีอะไรมาขัดขวางเกะกะลําไฟฉายเปนอุปสรรค  ทําใหสองเห็นไดงาย  แตถาบริเวณที่ขัด

                   หางเปนดงทึบ มีกิ่งไมบังไพรหนาแนน เขาจะสองไฟยิงไดยังไง”

                            “นักลาสมัครเลน หรือพรานฝกหัด พบปญหาอยางที่คุณไชยยันตวามาแลวทุกคนครับ”
                            จอมพรานอธิบายในขณะที่ยิ้มอยางสุภาพ

                            “ความสําเร็จในเรื่องนี้ มักขึ้นอยูกับแบบของปนที่จะใชยิง และความชํานาญในการยิง จะ

                   มามัวพะวงพึ่งไฟฉายอยูไมได   ถูกแลวครับ   การใชไฟฉายสองบนหางที่มีบังไพรหรือซุมไม
                   หนาแนน  ไมทําใหเกิดประโยชนอะไรขึ้นมาไดเลย  นอกจากจะทําใหสัตวรูตัว  เตลิดหนีเสียกอนที่

                   เราจะเห็นมันถนัดดวยซ้ํา  นักลาสัตวที่ชํานาญจะไมพยายามใชไฟฉายเลย  ในขณะที่นั่งซุมอยูในที่มี

                   บังไพรและพุมไมทึบ เสียงการเคลื่อนไหวของสัตวก็ดี เสียงกัดกินอาหารหรือกินน้ําก็ดี พรานที่จัด
                   เจนจริงๆ  จะคํานวณถูกในทันทีวาควรจะเปนชนิดไหน  หรือถาคลาดเคลื่อนไปบางก็ไมมากนัก  คง

                   อยูในประเภทใกลเคียงกันนั่นแหละ  และจะตองรูดวยวา  สัตวอยูหางออกไปทางดานไหน  สัก

                   เทาไหร  และอาศัยยิงตามเสียงโดยใชการคํานวณ  มันออกจะยากอยูมากสําหรับคนฝกใหม  และใน
                   การยิงสุม  โดยอาศัยเพียงแคเสียงของสัตวประกอบกับการคํานวณนี้  ไมมีปนชนิดไหนจะใหผลดี

                   เทากับประเภทลูกซอง  ผมถึงไดบอกแตแรกแลวไงครับวา  ผมชอบใชปนชนิดนี้  สําหรับยิงสัตวใน

                   เวลากลางคืน คือตัดปญหาในเรื่องการมองเห็นศูนยปนหรือไมออกไป พอวาดปากกระบอกตรง เรา

                   ก็เหนี่ยวไกไดทันที  ผิดกับไรเฟล  ซึ่งจะตองใชการเล็งพิถีพิถัน  ถามองไมเห็นศูนยปน  ก็ไมมี
                   ความหมายอะไรเลย ไฟฉายนั้นเอาไวสองสํารวจดูผลการยิงเทานั้น คือยิงเสียกอน แลวคอยสองดูที

                   หลังวาถูกหรือเปลา โดยปกติแลว การนั่งหาง สัตวมักจะเขามาใหยิงในระยะใกลมากอยูแลว เราใช

                   ปนลูกซองยิงตามเสียง  และการคํานวณสวนมากก็ไมคอยจะผิด  หรือถาบังเอิญเราไมไดถือปนลูก
                   ซอง ถือปนไรเฟลแทน ก็ใชยิงในวิธีเดียวนี่แหละ คือยิงสุมเขาไปในที่หมาย ซึ่งเราแนใจวาสัตวควร

                   จะอยูที่นั่น  เวนไวแตวาไรเฟลมันมีโอกาสถูกสัตวไดนอยกวาลูกซองเทานั้นในการยิงเดาสวนชนิด

                   นี้”



                   [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee (evol_oon@hotmail.com)
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71