Page 174 - Publicationa15
P. 174
166 ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์
(2) ชื่อกฎหมาย
การตรากฎหมายมาใช้บังคับในเรื่องการชุมนุมสาธารณะ ควร
ก�าหนดชื่อของกฎหมายที่แสดงความหมายให้ตรงกับเจตนารมณ์ที่จะมุ่งส่งเสริม
และคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะของประชาชน
(3) ขอบเขตของเนื้อหากฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ
เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะนี้จะต้องอนุวัติการ
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 63 จึงควร
พิจารณาข้อกฎหมาย ข้อมูล และปัญหาเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้น
จริงในปัจจุบันประกอบด้วย โดยค�านึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่มุ่ง
คุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชน
เป็นหลักและมีความส�าคัญ มากกว่าการให้อ�านาจรัฐในการจ�ากัดเสรีภาพของ
ประชาชนซึ่งเป็นเพียงข้อยกเว้น
ประเด็นที่ 1 ค�านิยาม
1) “การชุมนุมสาธารณะ” ควรหมายถึง การชุมนุมที่บุคคลใดๆ
มารวมตัวกันเพื่อแสดงออกให้รัฐหรือรัฐบาลทราบเกี่ยวกับความประสงค์ที่
ต้องการสนับสนุน เรียกร้อง หรือคัดค้านกฎหมาย นโยบาย การกระท�า การ
ด�าเนินการในโครงการหรือกิจกรรม หรือท่าทีอย่างหนึ่งอย่างใด โดยไม่จ�าเป็น
ต้องเป็นสมาชิก และไม่จ�าเป็นต้องมีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง
อย่างใด ของผู้เข้าร่วมการชุมนุมนั้น เพียงแต่มีเจตจ�านง มีความประสงค์ หรือ
มีความเห็นพ้องและมาชุมนุมร่วมกัน
2) กฎหมายที่ตราขึ้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ย่อมมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป จึงควรหลีกเลี่ยงการบัญญัติค�านิยามซ้อนค�า
นิยาม
3) “ผู้จัดการชุมนุม” ควรหมายถึง ผู้ริเริ่มจัดให้มีการชุมนุม
สาธารณะเท่านั้น ไม่ควรครอบคลุมถึงผู้เชิญชวนหรือผู้นัดหมายให้ผู้อื่นมา
ร่วมชุมนุม หรือผู้ขออนุญาตใช้สถานที่หรือขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง
เพราะร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ก�าหนดให้ “ผู้จัดการชุมนุม” มีหน้าที่ความ
รับผิดหลายบทหลายมาตรา จึงไม่ควรรวมบุคคลที่เป็นเพียงผู้สนับสนุนช่วยเหลือ
ผู้ริเริ่มจัดการชุมนุม
_17-0315(141-177)8.indd 166 4/27/60 BE 11:57 AM