Page 177 - Publicationa15
P. 177
เสรีภาพในการชุมนุมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 169
สุดท้าย และรับผิดชอบในการตัดสินใจดังกล่าว ดังนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่มี่ค�าสั่ง
ห้ามห้ามหรือให้เลิกการชุมนุมมสาธารณะ ผู้จัดการชุมนุม หรือผู้น�าการชุมนุม
ควรมีสิทธิอุทธรณ์ค�าสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อฝ่ายบริหารระดับสูงไปเป็น
ผู้วินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ และเมื่อได้ด�าเนินการตามขั้นตอนวิธีการในฝ่ายปกครอง
จนครบถ้วนแล้ว ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้จัดการชุมนุมหรือผู้น�าการชุมนุม
ที่จะน�าคดีไปสู่ศาลปกครองได้ต่อไป
ประเด็นที่ 3 การชุมนุมสาธารณะต้องไม่กีดขวางทางเข้าออก
สถานที่ส�าคัญต่างๆ
ควรบัญญัติให้ครอบคลุมถึงองค์การระหว่างประเทศ เช่น
ที่ท�าการขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งควรได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับ
สถานทูต หรือสถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ
ประเด็นที่ 4 ก�าหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามา
มีส่วนร่วมในการจัดการชุมนุมสาธารณะในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้มี
อ�านาจดุลพินิจในการจัดให้มีสถานที่ส�าหรับการชุมนุม สาธารณะ (มาตรา 9)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เป็นต้น
มาได้เปิดมิติการกระจายอ�านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอันที่จะ
จัดการบริการสาธารณะ โดยมีความเป็นอิสระในการก�าหนดนโยบาย การ
บริหาร และการจัดบริการสาธารณะในท้องถิ่นของตนเห็นว่าการก�าหนดให้
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการจัดการเกี่ยวกับสถานที่ที่ใช้
ในการชุมนุมนั้น เป็นการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งเสริมและเปิดโอกาส
ให้กลุ่มประชาชนกลุ่มต่างๆ จัดการชุมนุมได้โดยสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่อ�านวยความสะดวก ดูแลรักษาความปลอดภัย
และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมให้ประชาชนร่วมชุมนุมสาธารณะ เช่น สามารถ
เดินทางมายังสถานที่ดังกล่าวได้โดยสะดวก และควบคุมกรอบของการชุมนุม
ไม่ให้ไปกระทบสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นเกินสมควรแก่เหตุ โดยเห็นว่าควร
ก�าหนดให้เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่าเป็นการใช้ดุลพินิจ
จะจัดสถานที่หรือไม่ก็ได้
_17-0315(141-177)8.indd 169 4/27/60 BE 11:57 AM