Page 180 - Publicationa15
P. 180
172 ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์
กฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะนี้ ต้องสันนิษฐานเป็นคุณไว้ก่อนว่าเข้าร่วม
การชุมนุมโดยประสงค์ที่จะแสดงออกซึ่งการสนับสนุน เรียกร้องหรือคัดค้าน
กฎหมาย นโยบายการกระท�า การด�าเนินการในโครงการหรือกิจกรรม โดย
ไม่ต้องการที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง
ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจึงไม่ควรถูกสั่งให้หยุดหรือถูกตรวจค้นหรือยึด อายัด
ทรัพย์สิน นอกเสียจากว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐมีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยว่าบุคคล
ผู้นั้นได้กระท�าความผิดมาแล้ว หรือก�าลังจะกระท�าความผิด หรือจะท�าความผิด
ในระยะเวลาอันใกล้
การกระท�าใดๆ ที่กระทบสิทธิขั้นพื้นฐานดังกล่าวต้องเป็นกรณี
ยกเว้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ต้องผ่านการวินิจฉัยขององค์กรตุลาการ กล่าวคือ
ศาลต้องสั่งอนุญาตให้ออกหมายจับ หมายค้น ฯลฯ เสียก่อน
3) ควรเพิ่มอ�านาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม คุ้มครอง
และอ�านวยความสะดวกต่อกลุ่มผู้ชุมนุม และบทลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติ
ฝ่าฝืนหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับกลุ่ม
ผู้ชุมนุม ต้องเป็นกรณีที่มีอ�านาจหน้าที่ตามกฎหมายและมีเหตุที่จะใช้
มาตรการบังคับทางปกครอง ภายใต้หลักความได้สัดส่วน (Principle of
Proportionality) หากการกระท�าโดยไม่มีอ�านาจตามกฎหมายหรือขัดต่อ
หลักความได้สัดส่วนดังกล่าว ก็อาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา และ
ทางวินัย ซึ่งรวมถึงการละเว้นไม่เข้าแทรกแซงห้ามปรามการชุมนุมด้วย
บทบัญญัติการใช้อ�านาจของเจ้าหน้าที่ ในหมวดนี้ยังบัญญัติในลักษณะเป็นการ
อ�านวยความสะดวกและคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐ มากกว่าการก�าหนดให้
เจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่ต้องส่งเสริม คุ้มครอง หรืออ�านวยความสะดวกต่อ
กลุ่มผู้ชุมนุมสาธารณะ
ประเด็นที่ 7 บทก�าหนดโทษจ�าคุกแก่ผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ
กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ (มาตรา 30 ถึง
มาตรา 38)
บุคคลผู้มีบทบาทอย่างส�าคัญที่จะท�าให้การชุมนุมสาธารณะ
เกิดขึ้นและด�าเนินไปได้ คือผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งความผิดที่จะเกิดขึ้น
_17-0315(141-177)8.indd 172 4/27/60 BE 11:57 AM