Page 275 - Publicationa15
P. 275
การกระท�าทางนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตย 267
2. กำรจ�ำกัดสิทธิและเสรีภำพของประชำชนตำมกฎหมำยต้องเป็นไปเพียง
เพื่อให้กำรใช้บังคับกฎหมำยนั้นประสบควำมส�ำเร็จ โดยจะกระทบกระเทือน
ถึงสำระสำคัญของสิทธิและเสรีภำพนั้นมิได้
3. มำตรกำรตำมกฎหมำยต้องมีควำมเหมำะสมและสอดคล้องกับสภำพ
ของสังคมไทย
4. กลไกของรัฐมีควำมพร้อมที่จะบังคับกำรให้เป็นไปตำมกฎหมำยอย่ำง
เคร่งครัด โดยผู้บังคับใช้กฎหมำยต้องมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกับเจตนำรมณ์
ของกฎหมำยและมีส�ำนึกในกำรให้บริกำร บุคลำกร และงบประมำณมีพอเพียง
เพื่อใช้ในกำรบังคับกำรตำมกฎหมำย
5. ต้องมีกำรทบทวนควำมเหมำะสมของกลไกหรือมำตรกำรตำมกฎหมำย
ทุกกรอบระยะเวลำ เพื่อประโยชน์ในกำรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมำยให้
สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน
6. กำรให้ประชำชนมีส่วนร่วมในกระบวนกำรออกกฎหมำยหรือแก้ไข
เพิ่มเติมกฎหมำย โดยมีกำรรับฟังควำมคิดเห็นของผู้ที่อำจได้รับผลกระทบจำก
กำรมีหรือปรับปรุงแก้ไขกฎหมำยนั้นด้วย เพื่อให้สังคมเกิดควำมเชื่อมั่นต่อ
กระบวนกำรที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกำรแสวงหำฉันทำมติร่วมกัน อันจะท�ำให้เนื้อหำ
สำระหรือกลไกของกฎหมำยสอดคล้องกับควำมต้องกำรที่แท้จริงของสังคม
บทสรุป
กำรกระท�ำทำงนิติบัญญัติในระบอบประชำธิปไตย ซึ่งได้แก่กำรตรำ
กฎหมำยขึ้นใช้บังคับในรัฐเป็นลำยลักษณ์อักษร โดยมีกฎเกณฑ์มุ่งใช้บังคับกับ
บุคคลทั่วไปไม่ก้ำวล่วงเข้ำไปกระทบกับสิทธิและเสรีภำพของรำษฎรโดยเฉพำะ
คนใดคนหนึ่ง เว้นแต่กำรออกกฎหมำยเฉพำะกรณีเช่น กฎหมำยนิรโทษกรรม
หรือกฎหมำยว่ำด้วยอภัยโทษ รวมถึงกำรอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระรำชก�ำหนด
ต่ำงก็อยู่ในควำมหมำยของ “กำรกระท�ำทำงนิติบัญญัติ” ด้วยนั้น ในหลักกำร
ของระบอบประชำธิปไตยกำรกระท�ำทำงนิติบัญญัติจะต้องยึดถือหลัก
เสียงข้ำงมำก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยกำรคุ้มครองหลักเสียงข้ำงน้อย
โดยต้องเปิดโอกำสให้ฝ่ำยเสียงข้ำงน้อยได้แสดงควำมคิดเห็นโต้แย้งแสดงเหตุผล
_17-0315(250-268)12.indd 267 4/27/60 BE 11:57 AM