Page 316 - Publicationa15
P. 316
308 อุดมศักดิ์ นิติมนตรี
รัฐต้องให้ความอารักขาคุ้มครองมนุษยชนให้พ้นจากลัทธิทรราชย์ หากมี
ข้อพิพาทใด ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าระหว่างรัฐกับเอกชน หรือระหว่างเอกชนกับเอกชน
ศาลย่อมมีอ�านาจอิสระในการตัดสินข้อพิพาทนั้นโดยเด็ดขาดและโดยยุติธรรม
ตามกฎหมายของบ้านเมืองที่ถูกต้องและเป็นธรรม” หัวใจของหลักนิติธรรม
คือ ต้องตั้งอยู่ในความถูกต้องและชอบธรรม สอดคล้องกับหลักทศพิธราชธรรม
ประการที่สิบคือ “อวิโรธน�” ท�าให้หลักนิติธรรมของเราใช้ได้ อย่างกว้างขวาง
ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ฯพณฯ นายอรรถนิติ ดิษฐอ�านาจ องคมนตรีได้ปาฐกถาพิเศษไว้ว่า
อวิโรธนะ หรืออวิโรธนัง คือความหนักแน่น ถือความถูกต้องเที่ยงธรรม
เป็นหลักไม่เอนเอียงหวั่นไหวด้วยค�าพูด ถ้อยค�าดีร้าย อารมณ์ หรือราช (ลาภ)
สักการะใดๆ
ด้วยหลักการที่ต้องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนของ
ปัจเจกบุคคล และต้องการสนองต่อประโยชน์ของรัฐและมหาชน และรักษา
ความเป็นเอกภาพของรัฐในขณะเดียวกันด้วยนั้น จึงจ�าเป็นต้องมีการประสาน
ผลประโยชน์ของทั้งสองแนวความคิดของส�านักกฎหมายดังกล่าวเข้าด้วยกัน
รัฐธรรมนูญที่ตั้งอยู่บนหลักอ�านาจอธิปไตยของชาติ จึงปรากฏกระบวนการ
ที่ให้ประชาชน เข้ามาแทรกแซงโดยตรงในกิจกรรมนิติบัญญัติและกิจกรรม
ของรัฐบาล มีการเชื่อมโยงกับเทคนิคของประชาธิปไตยทางตรง โดยเป็นการ
ประสานแนวความคิดอ�านาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเข้ามา ซึ่งในกรณี
ดังกล่าวท�าให้ประชาชนเป็นผู้ปกครองและผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง
ในขณะเดียวกัน
รัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐ เป็นพันธะสัญญาของทุกคน
ในสังคมนั้น ที่เรียกว่า สัญญาประชาคม ดังนั้นรัฐธรรมนูญในความหมาย
ดังกล่าวจึงถือว่าเป็นสัญญาของสังคม การปกครองคนในสังคมนั้นก็ต้องอาศัย
กฎหมาย และกฎหมายนั้นก็ต้องตราออกมาจากคนในสังคมหรือจากตัวแทน
ของคนในสังคมนั้นด้วยกันเอง หมายความว่า กฎหมายที่จะน�ามาใช้กับคน
ในสังคมนั้น ก็ต้องได้รับการยอมรับ หรือได้รับการตราขึ้นโดยคนในสังคม
อันเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกๆ คน
_17-0315(306-336)15.indd 308 4/27/60 BE 11:58 AM

