Page 321 - Publicationa15
P. 321
ศาลรัฐธรรมนูญกับการสร้างบรรทัดฐานทางรัฐธรรมนูญ 313
ไปทันที จ�าเลยไม่ต้องโทษจ�าคุก ไม่ได้มีการน�าตัวจ�าเลย ไปควบคุมไว้ในเรือนจ�า
และเทียบเคียงกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 74 ที่ว่า ....
เมื่อผู้ใดต้องค�าพิพากษาให้จ�าคุก.... ให้ศาลออกหมายจ�าคุกผู้นั้น หมายความว่า
การต้องค�าพิพากษาให้จ�าคุกบุคคลนั้นต้องจ�าคุกจริง ค�าวินิจฉัยให้เหตุผล
ต่อไปว่า ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ยกค�าขอให้นับโทษต่อแสดงว่าไม่ได้ลงโทษจ�าคุก
จริง ค�าวินิจฉัยยังเทียบเคียงกับรัฐธรรมนูญปี 2540 มาตรา 206 (5) เป็นคุณสมบัติ
และลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี กรณีรัฐมนตรีเคยต้องค�าพิพากษาให้จ�าคุก
ตั้งแต่สองปีขึ้นไป ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีก่อนได้รับแต่งตั้ง แสดงว่า
ต้องมีการจ�าคุกจริง จึงจะนับวันพ้นโทษได้
ค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวนี้ ไม่ได้พิจารณาถึงจริยธรรมของ
รัฐมนตรีที่สังคม พึงปรารถนาว่าสมควรเป็นประการใดบ้าง การที่ศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น ท�าให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนและ
นักวิชาการต่างๆ เป็นอย่างมาก จนได้ข้อสรุปว่าสังคมต้องการมาตรฐานทาง
จริยธรรมของผู้ที่ด�ารงต�าแหน่งรัฐมนตรีสูงกว่าคนอื่น ๆ แม้ต้องค�าพิพากษา
ให้จ�าคุกและศาลรอการลงโทษจ�าคุก ความเป็นรัฐมนตรีก็ต้องสิ้นสุดลง เป็นการ
แสดงความคิดเห็น หรือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดี
ดังกล่าวกันอย่างแพร่หลายและกว้างขวาง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ที่พึงกระท�าได้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางรัฐธรรมนูญที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์
ร่วมกันของสังคมต่อไป ส่วนสภาพบังคับหรือผลผูกพันตามค�าวินิจฉัย ย่อม
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือความเป็นรัฐมนตรีของนายเนวิน ชิดชอบ
ไม่สิ้นสุดลง เป็นกรณีที่กลไกหรือเครื่องมือของรัฐธรรมนูญทั้งหลาย ต้องช่วยกัน
พัฒนาปรับปรุงบรรทัดฐานทางรัฐธรรมนูญ ในกรณีนี้ ตามเจตนารมณ์ร่วมกัน
ของสังคมต่อไป
ในโอกาสที่จะมีการยกร่างหรือแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ย่อมสามารถ
บรรลุบรรทัดฐานทางรัฐธรรมนูญ ตามเจตนารมณ์ร่วมกันของสังคมดังกล่าวไว้
ในรัฐธรรมนูญได้ ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้มีการ
ปรับปรุงบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ปี 2550 มาตรา 182 (3) บัญญัติว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง เมื่อต้อง
_17-0315(306-336)15.indd 313 4/27/60 BE 11:58 AM