Page 10 - เผชิญหน้า พล นิกร กิมหงวน
P. 10

10                เผชิญหน้า พล นิกร กิมหงวน                                                                      ปริญญา อินทรปาลิต                   11


                  หล่อนคงเชื่อลูกมั่วของผม จึงอธิบายละเอียดยิบยังกะใส่                               แม้นช้างน�้าวิ่งตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ยตามไปด้วยท่าทางหวาดหวั่น ปล่อยให้

          ครกต�า ซึ่งค�าอธิบายนั้นกระชากใจผมแทบหลุดออกจากอก ก็ชื่อที่                                ผมยืนงงเป็นไก่ตาแตกและเกาหัวแกร็กๆ อยู่ตรงนั้น

          ยายผีตกน�้าตายเอ่ยมาทั้งหมดคือลูกชายของคณะพรรคสี่สหาย ดัง                                          ค�าถามมากมายผุดขึ้นในสมองโดยผมไม่มีค�าตอบ บ้าน
          ที่ผู้อ่านสามเกลอและผมเองรู้จักดีอยู่แล้ว                                                  ‘พัชราภรณ์’ หลังนี้เป็นบ้านของสามเกลอ พล นิกร กิมหงวน จริง

                  ผมยืนเซเหมือนจะเป็นลมล้มลงชักดิ้นชักงอ พอดีมีรถเก๋ง                                หรือ?... หรือเป็นบ้านของคนอื่นแต่ตั้งชื่อเหมือนกันโดยบังเอิญ...

          สีฟ้าหม่นคันโตกว่าห้องเช่าของผมเสียอีก แล่นมาจอดเตรียมเลี้ยว                               ท�าไมในบ้านจึงมีคนชื่อพนัส นพ สมนึก และด�ารง?... ชายชราทั้งสี่

          เข้าบ้านนี้ แค่โลโก้หรือตรายี่ห้อรถบนฝากระโปรงหน้าที่มองเห็น ก็                            ที่ผมเห็นเมื่อครู่นี้คือใคร?... ท�าไมจึงมีจ�านวนเท่ากับ พล นิกร
          บอกได้ทันทีว่ามันคือคาดิลแล็ก สุดยอดรถชั้นเยี่ยมของอเมริกัน                                กิมหงวนและ ดร. ดิเรก พอดี?... ผมต้องรีบหายาหอมยาลมยาดม

                  สาวใหญ่หุ่นฮิปโปโปเตมัสท�าท่ากระสับกระส่าย แต่ผมไม่                                ยาหม่องมาบรรเทาความมึนงงซะแล้ว

          สนใจหล่อน ถือวิสาสะมองเข้าไปในรถซึ่งมีผู้โดยสารเป็นบุรุษ ๔                                         ผมบอกตัวเองว่าไม่น่าเป็นไปได้ ก็พลพรรคสามเกลอคือ
          คนนั่งทั้งด้านหน้าด้านหลัง ทั้งหมดอยู่ในวัยสูงอายุ ยกเว้นคนขับที่                          ตัวละครที่ปู่ผมคิดขึ้นมาจากจินตนาการ แล้วตัวละครเหล่านั้นจะ

          เป็นเด็กหนุ่มบุคลิกบอกว่าเป็นขี้ข้าของผู้โดยสารทั้งสี่คนนั้น                               โดดออกจากหนังสือ มามีชีวิตมีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

                  ประตูใหญ่เปิดออกโดยระบบอัตโนมัติ แต่โชเฟอร์ก็ยังไม่                                ได้อย่างไร?
          บังคับรถให้เคลื่อนไป ผมจึงรู้ว่าถูกจ้องมองโดยสี่ชายชราและมีการ                                     แอบมองทางช่องว่างข้างประตู เห็นยายตุ่มสามโคกก�าลัง

          พูดกันแบบสงสัย ซึ่งผมเองก็มองตอบโดยไม่ยอมหลบตาเหมือนกัน                                    ถูกบุรุษสูงวัยทั้งสี่สอบถามอยู่หน้าตึกนั้น คงถามเกี่ยวกับผมซึ่ง

                  “แค่นี้ก่อนนะคุณ” ฮิปโปกล่าวกับผม “คุณผู้ชายกลับมา                                 บังอาจไปจ้องหน้าพวกเขานั่นแหละ ส่วนคาดิลแล็กเก๋งคันงามขยับ
          แล้ว อีฉันต้องรีบไปซื้อของ”                                                                เข้าไปจอดในโรงรถแล้ว โดยไอ้หนุ่มที่เป็นคนขับยืนปัดฝุ่นบนตัวรถ

                  ไม่ทันที่หล่อนจะขยับก้าวเดิน กระจกหน้าต่างรถด้านหน้า                               ด้วยไม้ขนไก่

          ก็เลื่อนลง พร้อมมีเสียงพูดดังออกมา                                                                 ในที่สุดผมก็ส่ายหน้าและต�าหนิตัวเองว่าเพ้อเจ้อไม่เข้า
                  “ยายแม้น อย่าเพิ่งไป กลับไปพบพวกเราก่อน”                                           เรื่อง ที่ส�าคัญคือถ้าเจ้าของบ้านหลังนี้คิดว่าผมเป็นพวกมิจฉาชีพที่

                  ผมสังเกตเห็นหน้าตาผู้พูดค่อนข้างเคร่งขรึมและสั่งการ                                มาด้อมๆ มองๆ ดูลาดเลาก่อนลงมือโจรกรรม เขาอาจจะแจ้งต�ารวจ

          อย่างจริงจัง จากนั้นรถก็แล่นไปจอดที่หน้าตึกหลังกลาง ขณะที่ยาย                              มาลากคอผมเข้าซังเตก็ได้ คิดเช่นนี้แล้วจึงตัดสินใจเดินจากบ้าน
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15