Page 11 - เผชิญหน้า พล นิกร กิมหงวน
P. 11

10  เผชิญหน้า พล นิกร กิมหงวน        ปริญญา อินทรปาลิต                   11


     หล่อนคงเชื่อลูกมั่วของผม จึงอธิบายละเอียดยิบยังกะใส่  แม้นช้างน�้าวิ่งตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ยตามไปด้วยท่าทางหวาดหวั่น ปล่อยให้

 ครกต�า ซึ่งค�าอธิบายนั้นกระชากใจผมแทบหลุดออกจากอก ก็ชื่อที่  ผมยืนงงเป็นไก่ตาแตกและเกาหัวแกร็กๆ อยู่ตรงนั้น

 ยายผีตกน�้าตายเอ่ยมาทั้งหมดคือลูกชายของคณะพรรคสี่สหาย ดัง      ค�าถามมากมายผุดขึ้นในสมองโดยผมไม่มีค�าตอบ บ้าน
 ที่ผู้อ่านสามเกลอและผมเองรู้จักดีอยู่แล้ว  ‘พัชราภรณ์’ หลังนี้เป็นบ้านของสามเกลอ พล นิกร กิมหงวน จริง

     ผมยืนเซเหมือนจะเป็นลมล้มลงชักดิ้นชักงอ พอดีมีรถเก๋ง  หรือ?... หรือเป็นบ้านของคนอื่นแต่ตั้งชื่อเหมือนกันโดยบังเอิญ...

 สีฟ้าหม่นคันโตกว่าห้องเช่าของผมเสียอีก แล่นมาจอดเตรียมเลี้ยว  ท�าไมในบ้านจึงมีคนชื่อพนัส นพ สมนึก และด�ารง?... ชายชราทั้งสี่

 เข้าบ้านนี้ แค่โลโก้หรือตรายี่ห้อรถบนฝากระโปรงหน้าที่มองเห็น ก็  ที่ผมเห็นเมื่อครู่นี้คือใคร?... ท�าไมจึงมีจ�านวนเท่ากับ พล นิกร
 บอกได้ทันทีว่ามันคือคาดิลแล็ก สุดยอดรถชั้นเยี่ยมของอเมริกัน  กิมหงวนและ ดร. ดิเรก พอดี?... ผมต้องรีบหายาหอมยาลมยาดม

     สาวใหญ่หุ่นฮิปโปโปเตมัสท�าท่ากระสับกระส่าย แต่ผมไม่  ยาหม่องมาบรรเทาความมึนงงซะแล้ว

 สนใจหล่อน ถือวิสาสะมองเข้าไปในรถซึ่งมีผู้โดยสารเป็นบุรุษ ๔       ผมบอกตัวเองว่าไม่น่าเป็นไปได้ ก็พลพรรคสามเกลอคือ
 คนนั่งทั้งด้านหน้าด้านหลัง ทั้งหมดอยู่ในวัยสูงอายุ ยกเว้นคนขับที่  ตัวละครที่ปู่ผมคิดขึ้นมาจากจินตนาการ แล้วตัวละครเหล่านั้นจะ

 เป็นเด็กหนุ่มบุคลิกบอกว่าเป็นขี้ข้าของผู้โดยสารทั้งสี่คนนั้น  โดดออกจากหนังสือ มามีชีวิตมีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

     ประตูใหญ่เปิดออกโดยระบบอัตโนมัติ แต่โชเฟอร์ก็ยังไม่  ได้อย่างไร?
 บังคับรถให้เคลื่อนไป ผมจึงรู้ว่าถูกจ้องมองโดยสี่ชายชราและมีการ      แอบมองทางช่องว่างข้างประตู เห็นยายตุ่มสามโคกก�าลัง

 พูดกันแบบสงสัย ซึ่งผมเองก็มองตอบโดยไม่ยอมหลบตาเหมือนกัน  ถูกบุรุษสูงวัยทั้งสี่สอบถามอยู่หน้าตึกนั้น คงถามเกี่ยวกับผมซึ่ง

     “แค่นี้ก่อนนะคุณ” ฮิปโปกล่าวกับผม “คุณผู้ชายกลับมา  บังอาจไปจ้องหน้าพวกเขานั่นแหละ ส่วนคาดิลแล็กเก๋งคันงามขยับ
 แล้ว อีฉันต้องรีบไปซื้อของ”  เข้าไปจอดในโรงรถแล้ว โดยไอ้หนุ่มที่เป็นคนขับยืนปัดฝุ่นบนตัวรถ

     ไม่ทันที่หล่อนจะขยับก้าวเดิน กระจกหน้าต่างรถด้านหน้า  ด้วยไม้ขนไก่

 ก็เลื่อนลง พร้อมมีเสียงพูดดังออกมา      ในที่สุดผมก็ส่ายหน้าและต�าหนิตัวเองว่าเพ้อเจ้อไม่เข้า
     “ยายแม้น อย่าเพิ่งไป กลับไปพบพวกเราก่อน”  เรื่อง ที่ส�าคัญคือถ้าเจ้าของบ้านหลังนี้คิดว่าผมเป็นพวกมิจฉาชีพที่

     ผมสังเกตเห็นหน้าตาผู้พูดค่อนข้างเคร่งขรึมและสั่งการ  มาด้อมๆ มองๆ ดูลาดเลาก่อนลงมือโจรกรรม เขาอาจจะแจ้งต�ารวจ

 อย่างจริงจัง จากนั้นรถก็แล่นไปจอดที่หน้าตึกหลังกลาง ขณะที่ยาย  มาลากคอผมเข้าซังเตก็ได้ คิดเช่นนี้แล้วจึงตัดสินใจเดินจากบ้าน
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16