Page 97 - 012สังคมศึกษา-สค21001
P. 97
89
แตยังทรงหาวิธีการจัดหาน้ําชวยเหลือราษฎรในทุกทาง ดวยเหตุนี้จึงเกิดแนวพระราชดําริเรื่อง “ฝนหลวง”
ขึ้น ดังมี พระราชดํารัสวา
...แตมาเงยดูทองฟา มีเมฆ ทําไมมีเมฆ อยางนี้ทําไมจะดึงเมฆนี่ใหลงมาได ก็เคยไดยินเรื่องทําฝน ก็มา
ปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทําได มีหนังสือ เคยอานหนังสือทําได...
จากนั้นโครงการ “ฝนหลวง” หรือ “ฝนเทียม” จึงเกิดขึ้นภายใตการพระราชทานคําแนะนําของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอยางใกลชิด โดยเริ่มตั้งแตวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498
และไดเริ่มทําฝนเทียมครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม
พ.ศ. 2512 จากนั้นการคนควาพัฒนาเกี่ยวกับ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ได
กาวหนาขึ้นอยางตอเนื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา-
ภูมิพลอดุลยเดชไดทรงทดลองวิจัยดวยพระองคเอง และ
พระราชทานทรัพยสินสวนพระองครวมเปนคาใชจาย
ในที่สุดดวยพระวิริยอุตสาหะเปนเวลาเกือบ 30 ป ดวย
พระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพ ทําใหสามารถกําหนดบังคับฝนใหตกลงสูพื้นที่เปาหมายได จากฝน
หลวงที่มุงหวังชวยเหลือเกษตรที่ประสบภัยแลง โดยการชวยแกไขปญหาขาดแคลนน้ําหรือฝนทิ้งชวง และชวย
ดานการอุปโภคบริโภค รวมทั้งการทําฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ําเหนือเขื่อนภูมิพล เมื่อเกิดภาวะวิกฤติขาด
แคลนน้ําอยางรุนแรงในชวงหนาแลง
การแกไขปญหาน้ําเสีย แนวพระราชดําริเกี่ยวกับเรื่องน้ําที่สําคัญมีหลายโครงการ เชน เรื่อง “น้ําดี
ไลน้ําเสีย” ในการแกไขปญหามลพิษทางน้ํา โดยทรงใชน้ําที่มีคุณภาพดีจากแมน้ําเจาพระยาใหชวยผลักดันและ
เจือจางน้ําเนาเสียใหออกจากแหลงน้ําของชุมชน พระราชดําริบําบัดน้ําเสียโดยหลักการนี้เปนวิธีการที่งาย
ประหยัดพลังงาน และสามารถปฏิบัติไดตลอดเวลา แสดงใหเห็นถึงพระปรีชาสามารถและพระวิริยอุตสาหะ
ที่ทรงปฏิบัติเพื่อประโยชนของราษฎร และยังโปรดเกลาฯ ใหมีการทดลองใชผักตบชวามาชวยดูดซับความ
สกปรก รวมทั้งสารพิษตาง ๆ จากน้ําเนาเสีย ประกอบกับเครื่องบําบัดน้ําเสียแบบตาง ๆ ที่ไดทรงคิดคน
ประดิษฐขึ้นโดยเนนที่วิธีการเรียบงาย ประหยัด และไมกอใหเกิดความเดือดรอนรําคาญแกประชาชนในพื้นที่
การแกไขปญหาน้ําทวม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไดพระราชทาน
แนวทางแกไขปญหาน้ําทวมดวยวิธีการตาง ๆ อยางเหมาะสมในแตละพื้นที่ เชน การกอสรางคันกั้นน้ํา
การกอสรางทางผันน้ํา การปรับปรุงตกแตงสภาพลําน้ําเพื่อใหน้ําที่ทวมทะลักสามารถไหลไปตามลําน้ําไดสะดวก
หรือชวยใหกระแสน้ําไหล เร็วยิ่งขึ้น อันเปนการบรรเทาความเสียหายจากน้ําทวมขังได นอกจากนี้ การกอสราง
เขื่อนเก็บกักน้ําเปนมาตรการการปองกันน้ําทวมที่สําคัญประการหนึ่งในการกักเก็บน้ําที่ไหลทวมลนในฤดู
น้ําหลาก โดยเก็บไวทางดานเหนือเขื่อนในลักษณะอางเก็บน้ํา เพื่อประโยชนในการเพาะปลูกของพื้นที่ดาน
ทายเขื่อนในชวงที่ฝนไมตกหรือฤดูแลง เขื่อนเหลานี้มีประโยชนดานการชลประทานเปนหลักและประโยชน
อื่น ๆ เชน การผลิตไฟฟา การเพาะเลี้ยงปลาและกุงในอางเก็บน้ํา และการบรรเทาน้ําทวม