Page 38 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 38
ประวัติศาสตร์จานเดียว
สี่ปีหลังการสูญเสียเจ้าชายมังรายกยอชวา พระเจ้ามังฆ้องก็เสด็จ
สวรรคต และอีกขวบปีต่อมา พระเจ้าราชาธิราชก็เสด็จสวรรคต จากนั้นจึง
เริ่มเข้าสู่ยุคเสื่อมของทั้งสองอาณาจักร
พระเจ้าสีหสุ ขึ้นครองกรุงอังวะสืบต่อมา พระองค์ได้อภิเษกสมรส
กับเจ้าหญิงมอญ คือ พระนางชินสอบู (ซึ่งมีเข้ามามีบทบาทอย่างมากใน
ภายหลัง) พระเจ้าสีหสุดำาเนินนโยบายเป็นมิตรกับมอญต่างจากในสมัยพระ
เจ้ามังฆ้อง แต่นั่นก็เพียงระยะสั้นๆ เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตหลังจากครอง
บัลลังก์ได้เพียงสี่ปี หลังจากนั้นกรุงอังวะก็ไม่ได้สงบสุข ด้วยมีการแย่งชิงราช
สมบัติกันต่อมา อีกทั้งเกิดการชิงอำานาจกันระหว่างพวกพม่าและไทยใหญ่
เกิดการแข็งเมืองขึ้นหลายแห่งโดยเฉพาะเมืองสำาคัญอย่าง ยะไข่ และ แปร
ไม่นานนักอำานาจของพม่าในกรุงอังวะก็แทบจะสิ้นสุดลง ไทยใหญ่
ขึ้นมามีอิทธิพลเหนือพระเจ้ากรุงอังวะ แม้กรุงอังวะจะยังยืนยงอยู่ต่อมาได้
อีกกว่าร้อยปี แต่ก็เต็มไปด้วยสงครามและการกบฎ ราษฎรได้รับความเดือด
ร้อนแสนสาหัส ชาวพม่าจำานวนมากอพยพหนีไปอยู่เมืองตองอู กรุงอังวะ
แทบจะล่มสลาย
ขณะที่อังวะเริ่มเสื่อมลง ยะไข่กับหงสาวดีกลับเจริญขึ้น ทางฝั่งมอญ
นั้นเมื่อพระเจ้าสีหสุของพม่าสิ้นพระชนม์ พระนางชินสอบูก็เสด็จกลับเมือง
หงสาวดี น่าจะเรียกว่าหนีกลับจะถูกกว่า เพราะความจริงแล้วพวกพม่าไม่
ต้องการให้พระนางเสด็จกลับ แต่ต้องการให้พระนางอยู่เป็นองค์ประกันเสีย
มากกว่า ในหนังสือราชาธิราชนั้นเขียนไว้ว่า พระนางถูกพวกพม่าลักพาตัว
ไปขณะที่เสด็จไปนมัสการพระเกศาธาตุ หรือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่
เมืองตะเกิง แต่ในทางประวัติศาสตร์นั้นระบุว่า ฝ่ายมอญได้ยกพระนางให้แก่
พระเจ้ากรุงอังวะเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี จะทางไหนก็แล้วแต่พระนางก็มีแต่
เสียกับเสียอยู่ดี
ดังนั้นเมื่อเกิดการผลัดแผ่นดินพม่าขึ้น พระนางก็คิดเสด็จกลับหง
๓๐