Page 35 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 35
ประวัติศาสตร์จานเดียว
กับ พระเจ้ามังฆ้อง รบกันอยู่หลายหน ที่รบกันดุเดือดก็คือกรณีเมืองยะไข่ที่
พระเจ้าราชาธิราชบุกเข้ายึด บังเอิญว่าได้สังหารพระราชบุตรเขยของพระเจ้า
มังฆ้องที่กินเมืองยะไข่อยู่พอดี ซึ่งคงไม่ได้บังเอิญ ทั้งสองพระองค์นั้นถือว่า
เป็นหน้าที่ของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในการที่จะแผ่ขยายอาณาเขตออกไป แม้ว่า
จะจับมือเป็นมิตรกันมาก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าทั้งมอญและพม่าต่างก็เขม่น
กันอยู่ในที ในหนังสือราชาธิราชนั้นอ้างว่าเกิดการกระทบกระทั่งกันบริเวณ
ชายแดนของทั้งสองอาณาจักรที่เคยทำาสัญญากันไว้แต่เดิม
เมื่อเกิดกรณีเมืองยะไข่ขึ้นก็เท่ากับว่าเป็นสัญญาณเปิดศึกครั้งใหม่
ระหว่างสองอาณาจักร ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายพม่าที่ยกทัพลงมาหมายจะ
ปราบพวกมอญ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรัชทายาทแห่งกรุงอังวะ เจ้าชายมังรายกยอ
ชวา ยกทัพลงมาเอง
อันนี้เป็นเรื่องเล่าหรือเป็นตำานานก็สุดแท้แต่ ก็คือย้อนไปกรณีเม้
ยมะนิกที่เล่าไว้ตอนต้นนั่นไง ซึ่งในหนังสือราชาธิราชและตำานานของพวก
มอญก็เล่าไว้ตรงกัน
พระเจ้าราชาธิราชเมื่อครั้งยังดำารงตำาแหน่งเป็นพระยาน้อยนั้น มี
มเหสีเป็นตัวตนอยู่แล้วคือ ตะละแม่ท้าว จนกระทั่งไปหยิบเอานางเม้ยมะนิ
กมาเป็นเบอร์สอง เมื่อเถลิงราชสมบัติเป็นพระเจ้าราชาธิราช พระองค์โปรด
เบอร์สองมากกว่า เมื่อครั้งประกอบพิธีปราบดาภิเษกนั้นก็จะต้องมีพิธีการตั้ง
อัครมเหสี ซึ่งพระองค์ตั้งพระทัยจะตั้งตะละแม่ท้าวให้เป็นอัครมเหสีฝ่ายขวา
และให้เม้ยมะนิกเป็นอัครมเหสีฝ่ายซ้าย เมื่อถึงเวลา ตะละแม่ท้าวยังถือโกรธ
และหึงหวงอยู่ไม่หายจึงไม่ได้เสด็จเข้าร่วมพิธี พระเจ้าราชาธิราชพิโรธยิ่งนัก
แต่ก็ไม่ได้กระทำาสิ่งใดด้วยยังเกรงพระทัยอยู่ จึงแต่งตั้งเม้ยมะนิกเพียงฝ่าย
เดียวให้เป็น พระนางปิยราชเทวี ยิ่งทำาให้ตะละแม่ท้าวน้อยอกน้อยใจเข้าไป
ใหญ่ หลังจากนั้นมาพระองค์ก็มิได้ดูดำาดูดีพระนางอีกเลย
พระเจ้าราชาธิราชกับตะละแม่ท้าวนั้นมีพระราชบุตรหนึ่งพระองค์
๒๗