Page 58 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 58
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ขนสมบัติมากมายมหาศาลใส่เรือบรรทุกไปด้วย ตลอดน่านน้ำาที่เต็มไปด้วย
กองทัพเรือต่างชาติและพวกโจรสลัด เพียงแต่เห็นธงพม่าก็ไม่มีใครกล้าหือ
เพราะรู้ว่าเป็นเรือของพระเจ้ากรุงหงสาวดี
แม้ว่าพระองค์จะเป็นนักรบผู้ปราบทั้งสิบทิศแต่ก็ใส่พระทัยใน
พระพุทธศาสนา ทรงมุ่งหวังที่จะให้กรุงหงสาวดีเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธ
ศาสนาเหมือนเช่นพุกามในอดีต ทรงสร้างสัมพันธ์อันดีกับกรุงลังกาที่เป็น
เสมือนศูนย์กลางของนิกายเถรวาท ขณะนั้นกรุงลังกาถูกครอบงำาโดยพวก
โปรตุเกส กษัตริย์ที่เยาว์พระชันษากลายเป็นคริสต์ไป สร้างความเจ็บช้ำาน้ำาใจ
ให้บรรดาชาวเมืองส่วนมากที่เป็นพุทธ เมื่อกษัตริย์ของพวกเขาไม่สามารถ
เป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำาจุนพุทธศาสนาได้ เจ้าแห่งแคว้นโกสีจึงก้าวขึ้นมามีบทบาท
มากขึ้น ถึงขนาดที่พระเจ้าบุเรงนองส่งคณะราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีด้วย
เนื่องจากทรงถือว่าเจ้าแคว้นโกสีคือผู้นำาที่ถูกต้องของกรุงลังกา และเมื่อเกิด
กบฎขึ้นพระองค์ก็ยังส่งกองทัพไปช่วยเต็มอัตรา
พระเจ้าบุเรงนองทรงศรัทธา พระธาตุชเวมอดอ หรือที่ไทยเราเรียก
ว่า พระธาตุมุเตา ก่อนทำาศึกทุกครั้งพระองค์จะต้องเสด็จมานมัสการพระธาตุ
และเมื่อเสร็จศึกกลับมาก็มักจะกลับมานมัสการพร้อมถวายโน่นนี่เป็นพุทธ
บูชาทุกครั้งไป พระธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่มอญเรืองอำานาจ เมื่อ
แรกเริ่มนั้นอาจจะไม่ได้สูงเท่าในตอนนี้ เพราะปัจจุบันพระธาตุชเวมอดอนี่มี
ความสูงที่สุดในประเทศพม่า ก็คงจะมาสูงเอาเรื่อยๆ ในสมัยพระเจ้าบุเรนอง
เพราะพระองค์รบชนะมาเรื่อย จำานวนครั้งในการเพิ่มฉัตรเติมความสูงก็เลย
มากตาม บรรดาพระธาตุสำาคัญของพม่ามักจะได้รับการต่อเติมโดยกษัตริย์
หลายพระองค์และแน่นอนว่าจะต้องมีการถวายของมีค่าเป็นพุทธบูชา พระ
เจ้าบุเรงนองเองก็เคยถอดอัญมณีจากพระมหาพิชัยมงกุฎออกเพื่อนำาไป
ประดับที่ยอดพระธาตุองค์นี้มาแล้วด้วย
อาจจะมีการเปรียบเทียบกันถึงการทำานุบำารุงพุทธศาสนาในยุคของ
๕๐