Page 54 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 54
ประวัติศาสตร์จานเดียว
สมัยที่พระเจ้าตะเบงชเวตี้มาตีนั้นก็เคยส่งราชทูตมาทูลขอช้างเผือก
เหมือนกันที่เกิดแตกความเห็นกันในราชสำานัก ครั้งนี้ก็เช่นกัน ฝ่ายหนึ่งเห็น
ว่ากำาลังเรานั้นสู้พม่าไม่ได้ การยอมสละช้างไปบ้างนั้นไม่ได้เป็นการเสียพระ
เกียรติยศ ก็เหมือนผู้ใหญ่ให้ผู้น้อย แต่อีกฝ่ายก็มองว่าไม่ได้ๆ ถ้ายกให้ก็
เท่ากับยอมเขา สมัยพระเจ้าฟ้ารั่วตั้งตัวใหม่ๆ พ่อขุนรามคำาแหงยังไม่เคย
มอบช้างเผือกให้เลยด้วยซ้ำาทั้งที่มีสัมพันธ์แนบแน่นกันขนาดนั้น พระเจ้าฟ้า
รั่วยังต้องเสด็จคล้องช้างด้วยพระองค์เองเลย แบบนี้เสื่อมเสียพระเกียรติชัวร์
ก็มีเหตุผลทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเป็นคนไทยแล้วคงไม่มีใครยอม เอกราช
ของชาติไม่ได้มากันง่ายๆ บรรพบุรุษเหนื่อยยากเสียเลือดเนื้อไปเท่าไหร่ จะ
ให้มาสิ้นสุดกันในยุคของเรานี่เห็นที่จะไม่ไหว ถ้าอยากจะมายึดก็ต้องเหนื่อย
กันหน่อยล่ะ จะให้ยกมือยอมง่ายๆ นั้น ฝันไปเสียเถิด
ผลสุดท้ายนั้นเป็นอย่างไรทุกท่านคงจะทราบผลกันดี การเสียกรุง
ครั้งนี้ยังมีข้อที่ให้คนไทยคลายกังวลอยู่สองประการ คืออย่างน้อยพม่าก็มิได้
เข้ามาปกครองกดขี่น้ำาใจชาวไทยนัก แต่ยกให้พระมหาธรรมราชาขึ้นครอง
อยุธยาสืบไป ให้คนไทยปกครองคนไทยกันเอง แบบนี้ค่อยกราบกรานกัน
ได้อย่างเต็มใจ เพราะอย่าลืมว่าพระมหาธรรมราชานั้นก็สืบเชื้อสายมาจาก
ราชวงศ์สุโขทัย ย่อมมีศักดิ์และสิทธิ์ในการครองอยุธยาเช่นกัน อีกข้อหนึ่ง
ก็คือต้องยกย่องพระเจ้าบุเรงนอง แม้จะชนะศึกแล้ว พระองค์ก็ไม่ได้บุกเข้า
ชิงปล้นเผาบ้านทำาลายเมือง เหมือนการเสียกรุงครั้งที่สองที่อยุธยาแทบไม่
เหลือซาก คนไทยจึงไม่ถึงกับแค้นแบบไม่เผาผีกับพระเจ้าบุเรงนองผู้นี้นัก
๔๖