Page 45 - 18_การปฏบตตอเดก เยาวชน สตร_Neat
P. 45

๓๖




               ขอสังเกต
                     ๑.  มีเหตุอันควรสงสัย “ตองเปนเหตุอันควรสงสัย” ที่มีอยูกอนการคน และตองมิใชขอสงสัยที่อยูบนพื้นฐานของ
               ความรูสึกของเจาหนาที่เพียงอยางเดียว (คําพิพากษาฎีกา ที่ ๘๗๒๒/๒๕๕๕)
                     ๒.  ในเรื่องการคนกรณีนี้กฎหมายไมไดบัญญัติวาจะตองเปนเจาพนักงานฝายปกครอง หรือเจาพนักงานตํารวจ
               ชั้นยศใดที่จะตองเปนหัวหนาในการตรวจคนตัวบุคคล


                               (๒)  การคนตัวผูถูกจับ หรือผูตองหา

                                    ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕ วรรคแรก
              “เจาพนักงานผูจับหรือรับตัวผูถูกจับไว มีอํานาจคนตัวผูตองหา และยึดสิ่งของตางๆ ที่อาจใชเปน
              พยานได” ดังนั้น กรณีที่เจาพนักงานตํารวจมีเหตุอันควรสงสัยวาผูถูกจับนั้นซุกซอนสิ่งของที่ใชในการ

              กระทําความผิดหรือมีไวเปนความผิดนั้นอยูกับตัว เจาพนักงานตํารวจผูจับกุม หรือรับตัวก็มีอํานาจ
              ที่จะคนตัวบุคคลและยึดสิ่งของนั้นได แตตองกระทําการคนโดยสุภาพ
                                    แตหากผูถูกจับหรือผูตองหาเปน¼ÙŒËÞÔ§ ¼ÙŒ·Õè¨Ðทํา¡Ò䌹¨ÐμŒÍ§à»š¹¼ÙŒËÞÔ§

              (มาตรา ๘๕ วรรคสอง) ซึ่งกรณีที่ไมมีเจาพนักงานตํารวจหญิง ก็สามารถขอความรวมมือจากผูหญิงอื่น
              ที่อยูบริเวณใกลเคียงนั้นเปนผูทําการคนได
                          ๒) ¡Ò䌹ʶҹ·Õè

                               ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๙๒ กําหนด “หามมิใหคน
              ในที่รโหฐานโดยไมมีหมายคน หรือคําสั่งศาล”
                               ดังนั้น หากจะตองทําการคนในที่รโหฐาน เจาพนักงานตํารวจจะตองไปทําการคนได

              ตอเมื่อมีหมายคนเทานั้น เวนแตจะเปนกรณีเขาขอยกเวนตามที่มาตรา ๙๒ กําหนด กลาวคือ
                               (๑)  เมื่อมีเสียงรองใหชวยมาจากขางในที่รโหฐาน หรือมีเสียง หรือพฤติการณอื่นใด
              อันแสดงไดวามีเหตุรายเกิดขึ้นในที่รโหฐานนั้น

                               (๒)  เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหนากําลังกระทําลงในที่รโหฐาน
                               (๓)  เมื่อบุคคลที่ไดกระทําความผิดซึ่งหนา ถูกไลจับและหนีเขาไปหรือมีเหตุ
              อันแนนแฟน ควรสงสัยวาไดเขาไปซุกซอนตัวอยูในที่รโหฐานนั้น

                               (๔)  เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรวาสิ่งของที่มีไวเปนความผิด หรือไดมา
              โดยการกระทําความผิด หรือไดใชหรือมีไวเพื่อใชในการกระทําความผิด หรืออาจเปนพยานหลักฐานพิสูจน

              การกระทําความผิดไดซอนหรืออยูในนั้น ประกอบทั้งตองมีเหตุอันควรเชื่อวาหากรอหมายคน
              สิ่งของนั้น จะถูกโยกยายหรือทําลายเสียกอน
                               (๕)  เมื่อที่รโหฐานนั้น ผูที่จะตองถูกจับเปนเจาบานและการจับนั้น มีหมายจับ
              หรือเปนการจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๗๘

                               การใชอํานาจตรวจคนกรณีนี้ ใหผูตรวจคนจัดทําºÑ¹·Ö¡¡ÒÃμÃǨ¤Œ¹â´ÂäÁ‹ÁÕ
              ËÁÒ¤Œ¹ (Ẻ Ê õö – óñ) โดยแสดงเหตุผลที่ทําใหสามารถเขาคนได แลวมอบบันทึกการตรวจคนและ

              ºÑÞªÕ·ÃѾ»ÃСͺºÑ¹·Ö¡¡ÒÃμÃǨ¤Œ¹â´ÂäÁ‹ÁÕËÁÒ¤Œ¹ (Ẻ Ê õö – óò) ใหไวแกผูครอบครอง
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50