Page 21 - วารสารสุขภาพ สำนักอนามัย ปีที่ 6 ฉบับที่ 4
P. 21
สมาร์ทโฟนท�าให้เกิดอันตรายต่อดวงตาอย่างไร
1. ภาวะตาแห้ง แสบตา ตาพร่ามัวชั่วคราว ปวดตา เมื่อยล้าตา ซึ่งเป็นภาวะที่พบ
บ่อยมากที่สุด
2. ในระยะยาวเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกได้เร็วกว่าปกติ (มีรายงานทางการแพทย์
กรณีสงสัยในคน และมีรายงานการท�าวิจัยในสัตว์ เป็นข้อมูลสนับสนุน)
3. จอประสาทตาเสื่อม (macular degeneration) มีข้อมูลทางห้องปฏิบัติการและ
การศึกษาในสัตว์ทดลอง รายงานพบการท�าลายเซลล์ในชั้นจอประสาทตา ซึ่งเกิดจาก
แสงสีฟ้าทะลุผ่านเข้าไปในดวงตา แต่ทั้งนี้ ยังไม่พบข้อสรุปว่าต้องสัมผัสแสงสีฟ้า
ปริมาณมากเท่าไหร่ และนานเท่าไหร่จึงเกิดภาวะนี้ในคน
4. แนวโน้มการเกิดภาวะสายตาสั้นสูงขึ้น (มีการสรุปทางสถิติพบว่าอุบัติการณ์การเกิดสายตาสั้นเพิ่ม
สูงขึ้นในกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน) แม้ยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด
ควรใช้สมาร์ทโฟนอย่างไร เพื่อลดอันตรายที่อาจส่งผลต่อดวงตา
1. ใช้อุปกรณ์เหล่านี้น้อยที่สุดเท่าที่จ�าเป็น
2. วาง Smart phone ให้ห่างสายตาในระยะโดยประมาณ 30-40 เซนติเมตร
ปรับแสงสว่างของสิ่งแวดล้อมและหน้าจอ Smart phone ให้เหมาะสม
ไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป
3. ใช้หลัก “20-20-20 rule” หมายถึง พักสายตาทุก 20 นาที ระยะพักครั้งละ
20 วินาที และโดยลดการมองในระยะใกล้ โดยให้มองวัถตุที่ห่างออกไป
มากกว่า 20 ฟุต
4. อาจพิจารณาการใช้วัสดุอุปกรณ์เพิ่ม
เพื่อลดผลของแสงสีฟ้า การสะท้อน และ
การหักเหของแสงเข้าตา เช่น การใช้
ฟิล์มป้องกัน, การเลือกเลนส์ ชนิด
Anti-reflffllective (AR) coating เป็นต้น
11:30 11:30
12
การใช้สมาร์ทโฟนกลายเป็นหนึ่งปัจจัยส�าคัญในการสื่อสาร การท�างาน ตลอดจน
การใช้ชีวิตประจ�าวัน แต่การใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปอาจจะส่งผลต่อดวงตาทั้งระยะสั้นและ
ระยะยาว เราจึงควรใช้อย่างพอเหมาะเพื่อช่วยป้องกันอันตราย และถนอมดวงตาของเรา
ให้ใช้งานไปอีกนาน
วารสารสุขภาพ 21
ส�านักอนามัย