Page 47 - Microsoft Word - AS 05_ch1
P. 47

48


                         ผลการนําไปทดลองประสิทธิภาพ พบว่า รูปแบบฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานระดับปฏิบัติการ

                    สายการผลิตในสถานประกอบการมีประสิทธิภาพ 80.76/88.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กําหนดไว้ 80/80
                    และผลการประเมินความคิดเห็นของผู้เข้ารับการอบรมฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานระดับปฏิบัติการ

                    สายการผลิตในสถานประกอบการพบว่าผู้เข้าอบรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบฝึกอบรมเพื่อพัฒนา
                    พนักงานระดับปฏิบัติการสายการผลิตในสถานประกอบการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅) = 4.21

                         นุชนาฏ (2553 : 114) ได้ทําการวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบ e-Training  สําหรับบุคลากรใน
                    สถาบันอุดมศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบ e-Training สําหรับ

                    บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้าน e-Training จํานวน 5 ท่านเป็นผู้ประเมินรูปแบบ
                    ที่พัฒนาขึ้น จากนั้นนํารูปแบบ e-Training ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้โดยสร้างชุดฝึกอบรม e-Training
                    เรื่อง “การผลิตสื่อเพื่อการนําเสนอ” ด้วยระบบ Moodle ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจัดการเนื้อหา (CMS)

                    บนอินเทอร์เน็ต และให้ผู้เชี่ยวชาญ จํานวน 5 ท่าน ประเมินชุดฝึกอบรมที่ใช้ในการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง
                    ที่ใช้ในการทดลองรูปแบบ e-Training คือ อาจารย์ของมหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งไม่มีวุฒิวิชาชีพครู จํานวน

                    123 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจงผลการวิจัยพบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่ารูปแบบ e-Training
                    ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อนํารูปแบบ e-Training ที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้

                    พบว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามรูปแบบ e-Training มีผลสัมฤทธิ์ในการฝึกอบรมหลังจากฝึกอบรม
                    สูงขึ้นกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจ

                    ในรูปแบบ e-Training ในระดับมาก รูปแบบ e-Training ที่พัฒนาขึ้นจึงสามารถนําไปใช้สําหรับการพัฒนา
                    โปรแกรมการฝึกอบรมสําหรับบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                          Anthony (2005 : 44) ได้ทําการวิจัยหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองเกี่ยวกับภาวะ

                    การควบคุมอารมณ์ไม่ได้หรือความสับสนที่รุนแรงในคณะทํางานผู้ดูแลผู้ป่วยทั้งในและนอกโรงพยาบาล
                    จุดหมายของการเรียนด้วยตนเองคือ ภาวะสามารถควบคุมความรุนแรงได้หรือความสับสนรุนแรงที่

                    ปรากฏขึ้นรวดเร็วในชั่วโมงหรือหนึ่งวันซึ่งการวิจัยทําในที่พักอาศัยของโรงพยาบาลผู้สูงอายุซึ่งถูกออกแบบ
                    ให้สนับสนุนผู้เรียนให้ได้ความรู้ใหม่เท่ากับการประยุกต์ความรู้เหล่านี้ประกอบด้วยการเรียนรู้ 2 กรณี

                    คือ การปรับปรุงการดูแลผู้สูงอายุทั้งในและนอกโดยพยาบาลเฉลี่ยทําวันละ 20-30 นาที
                         จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรม ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด พบว่า

                    มีขั้นตอนที่คล้ายคลึงกัน ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การสํารวจข้อมูลพื้นฐาน การสร้างหลักสูตร
                    ฝึกอบรม การทดลองใช้หลักสูตร และการติดตามประเมินผลหลักสูตร ซึ่งผู้วิจัยได้ทําการศึกษา วิเคราะห์
                    เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับประเด็นที่ต้องการศึกษาและ

                    ความครบถ้วนสมบูรณ์ของเนื้อหา พร้อมทั้งได้ทําการสังเคราะห์ สาระสําคัญของเอกสารงานวิจัยที่
                    เกี่ยวข้องดังกล่าวทําให้เกิดองค์ความรู้ในการวิจัย เพื่อนําไปใช้เป็นแนวทางการดําเนินการสร้างหลักสูตร

                    ฝึกอบรม การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินหลักสูตรวิธีปฏิบัติที่จะทําให้การนําหลักสูตร
                    ไปใช้ก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52