Page 68 - วิทยาศาสตร์ ม.ต้น
P. 68
67
ขึ้นมาทดแทนน ้าที่พืชคายออกสู่บรรยากาศ แรงดึงนี้จะถูกถ่ายทอดไปยังรากท าให้รากดึงน ้าจากดินเข้า
มาในท่อไซเลมได้เนื่องจากน ้ามีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของน ้าด้วยกันเอง เรียกว่า โคฮี
ชัน (cohetion) สามารถที่จะดึงน ้าเข้ามาในท่อไซเลมได้โดยไม่ขาดตอน นอกจากนี้ยังมีแรงยึดเหนี่ยว
ระหว่างโมเลกุลของน ้ากับผนังของท่อไซเลม เรียกว่า แอดฮีชัน (adhesion) เมื่อพืชคายน ้ามากจะท าให้
น ้าระเหยออกไปมากด้วย ดังนั้นน ้าในไซเลมจึงสามารถเคลื่อนที่และส่งต่อไปยังส่วนต่างๆของพืช
ได้ ไม่ว่าจะเป็นล าต้น ใบ หรือยอดรากก็จะเกิดแรงดึงน ้าจากดินเข้าสู่ท่อไซเลมได้ แรงดึงเนื่องจากการ
สูญเสียน ้านี้เรียกว่า แรงดึงจากการคายน ้า (transpiration pull)
1.3 โครงสร้างและการท างานของระบบล าเลียงอาหารในพืช
น ้าที่พืชล าเลียงผ่านชั้นคอร์เทกซ์ของรากเข้าสู่ไซเลม มีธาตุอาหารต่าง ๆ ที่รากดูดจากดิน
ละลายอยู่ด้วยการล าเลียงธาตุอาหารต่าง ๆ มีความซับซ้อนมากกว่าการล าเลียงน ้า เพราะเซลล์มักไม่ยอม
ให้ธาตุอาหารเคลื่อนที่ผ่านเข้าออกได้โดยอิสระ
กระบวนการเคลื่อนที่ของธาตุอาหารต่างๆ เข้าสู่ราก ท าได้ 2 วิธี คือ ล าเลียงแบบไม่ใช้
พลังงาน (passive transport) โดยธาตุอาหารจะแพร่จากภายนอกเซลล์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า
ไปยังภายในเซลล์ที่มีความเข้มข้นต ่ากว่า และการล าเลียงแบบใช้พลังงาน (active transport) ซึ่งเป็นการ
เคลื่อนที่ของธาตุอาหารแบบอาศัยพลังงานท าให้พืชสามารถล าเลียงธาตุอาหารจากภายนอกเซลล์ที่มี
ความเข้มข้นต ่ากว่าเข้ามาภายในเซลล์ได้ จึงท าให้พืชสะสมธาตุอาหารบางชนิดไว้ได้
ธาตุอาหารที่จะเข้าไปในไซเลมสามารถเคลื่อนผ่านชั้นคอร์เทกซ์ของรากได้โดยเส้นทาง
อโพพลาสหรือซิมพลาส และเข้าสู่เซลล์เอนโดเดอร์มิสก่อนเข้าสู่ไซเลม ธาตุอาหารที่พืชล าเลียง
เข้าไปในไซเลมนั้นเป็นสารอนินทรีย์ต่างๆ ที่จ าเป็นต่อการด ารงชีวิตและการเจริญเติบโตของพืช