Page 68 - mukdahansuksapub
P. 68
68 ยน พ.ศ.๒๔๓๔ ได้ทูลเกล้าฯถวายราชบรรณาการและส่วยคือ ต้นไม้ทองสูง ๙ ชั้นทองคําหนัก ๓ ตําลึงต้นไม้ เงินสูง ๙ ชั้นเงินหนัก ๓ ตําลึง,นอแรด ๒ ยอด,เงินแทนงาช้าง ๑๘ ตําลึงคิดเป็นงาช้างหนัก ๑๐ ชั่งจีน,เงินแทนสี ผึ้ง ๒ ชั่ง ๑๐ ตําลึงคิดเป็นสีผึ้งหนัก ๒ หาบ,เงินแทนผลเร่ว ๑๐ ชั่ง ๒ บาท เมืองพาลุกากรภูมิเงินแทนผลเร่ว ๕ ชั่ง ๑๘ ตําลึง กองบ้านไผ่ท้าวสุริยะ(กองเมืองขึ้นทางฝั่งโขงตะวันออก)เงินแทนผลเร่ว ๔ ชั่ง ๓ ตําลึง กอง ส่วยบ้านโคกพระรัษฎากรบริรักษ์(กองส่วยฝังโขงตะวันออก)เงินแทนผลเร่ว ๙ ชั่ง กองส่วยบ้านผึ่งแดด(กอง ส่วยฝั่งโขงตะวันออก)เงินแทนผลเร่ว ๑๕ ตําลึง รวมเป็นเงินแทนผลเร่วปีฉลูเอกศกและปีขาลเอกศก(พ.ศ.๒๔ ๓๒-๓๓) ของเมืองมุกดาหารและเมืองขึ้นรวม ๕๑ ชั่ง ๑๒ ตําลึง(๔,๐๔๘ บาท) วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๔ เมื่อราชบุตร(เมฆ)และท้าวเพี้ยกรมการเมืองมุกดาหารพํานักอยู่ ที่กรุงเทพฯถึง ๖ เดือนจึงได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอีกครั้งหนึ่ง ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน สัญญาบัตรประทับพระราชลัญจกรตั้งให้ราชบุตร (เมฆ)เป็นพระจันทรเทพสุริยวงษา เจ้าเมืองมุกดาหาร ซึ่งท่าน มีอายุ ๔๖ ปี(เดิมเคยพระราชทานนามเจ้าเมืองมุกดาหารว่า พระจันทรสุริยวงษ์ เปลี่ยนเป็น พระจันทรเทพสุริย วงษา )และได้รับพระราชทานเครื่องยศ คือ หมวกตุ้มปี่หนึ่ง, กระบี่บั้งทองห้าบั้งหนึ่ง, เสื้อเข้มขาบดอกก้านแย่ง หนึ่ง,พานหมากถมเครื่องในทองคําสํารับหนึ่ง, ลูกประคําทองคํา ๑๐๘ เม็ดสายหนึ่ง,คณโททองคําหนึ่ง,กระโถน ทองคําหนึ่ง,ผ้าม่วงจีนผืนหนึ่ง เป็นเครื่องยศบรรดาศักดิ์ พระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ จันทรสาขา)ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ครั้งแรกเป็นพระจันทร เทพสุริยวงษา เมื่อดํารงตําแหน่งเจ้าเมืองมุกดาหาร ท่านพํานักอยู่ที่กรุงเทพฯประมาณ ๕-๖ เดือน ท่านได้สรรหา สิ่งของเครื่องใช้มาประจําเมืองมุกดาหารเช่น มโหรีปี่พาทย์ครบชุด ซึ่งได้ใช้ต่อมาถึงชั้นลูกชั้นหลานร่วม ๕๐ ปี นอกจากนั้นยังได้นําพันธ์ผลไม้ซึ่งเมืองมุกดาหารไม่เคยมีมาปลูกเช่นลําไย,มังคุด,มะปรางหวานเป็นต้น ท่านและคณะได้เดินทางกลับมาถึงเมืองมุกดาหารเมื่อวันอังคารขึ้น ๗ คํ่า เดือนยี่ (วันที่ ๕ มกรา คม พ.ศ.๒๔๓๔ซึ่งเดือนมีนาคมจึงจะเป็นเดือนสิ้นปี (จากเอกสารในจวนเจ้าเมืองมุกดาหาร) ชาวเมืองมุกดาหาร ได้พร้อมใจกันออกไปต้อนรับที่หนองนาบึง(บริเวณสวนสาธารณ เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษกปัจจุบัน) แล้ว จัดขบวนเกียรติยศแห่แหนเข้ามาในเมือง สร้างเรือมณฑล ท่านได้ชักชวนชาวมุกดาหารให้ร่วมแรงร่วมใจกันสืบ เสาะหาต้นตะเคียนในเมืองมุกดาหารที่งดงามและสูงใหญ่ที่สุด ซึ่งก็ได้พบต้นตะเคียนที่งดงามที่สุดขนาด ๖ คนจึงจะโอบรอบ ที่ดงบังอี่ (ในท้องที่อําเภอดอนตาลและอําเภอนิคมคําสร้อยปัจ จุบัน) ใช้เวลาขุดถากร่วม ๓ ปีจึงสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ เรือมีความยาวประมาณ ๒๐ เมตร,กว้าง ๑.๒๐ จุฝีพายได้ เรือมณฑล เรือของ พระยาศศิวงษ์ประวัติ ๔๕ คน ซึ่งเป็นเรือขุดที่สวยงามที่สุดและชนะเลิศเรืออื่นๆใน