Page 72 - mukdahansuksapub
P. 72

                                                                                                             72                                                          ท่าอุเทน,นครพนม    พระยาศศิวงษ์ประวัติ    จางวางกํากับราช                                                          การเมืองมุกดาหาร และ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการเมืองมุก                                                          ดาหารด้วยเนื่องจากผู้ว่าราชการเมือง  ซึ่งเป็นบุตรชายของท่าน                                                          ถึงแก่กรรมในปีนี้      พระยาศศิวงปรวัติท่านไปรับเสด็จที่เมือง                                                          นครพนมเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๔๙(เดือนมีนาคมเป็น                                                          เดือนสุดท้ายของปีพ.ศ๒๔๔๙)    ซึ่งได้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่                 (ซ้ายมือ,ถือไม้) พระยาศศิวงษ์ประวัติ  เจ้าเมืองมุกดาหาร ตามเสด็จมาเป็นจํานวนมากเช่นพระยาจ่าแสนบดี (อวบ  เปาว                 (ขวามือ) พระยาพนมนครานุรักษ์ เจ้าเมืองนครพนม       โรหิต)  เจ้ากรมกรมพลัมภัง กระทรวงมหาดไทย,พระยากําแหง                  สงคราม  สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครราชสีมา, พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร, พระยา                 พิสัยสรเดช ผู้ว่าราชการเมืองโพนพิสัย,   พระยาจันตประเทศธานี ผู้ว่าราชการเมืองสกลนคร,หมอแบรดด๊อก,                 นายเดอลารอคา ช่างถ่ายภาพฯลฯเป็นต้น                                          จากนครพนมท่านเสด็จด้วยขบวนม้าไปยังเมืองสกลนครแล้วเสด็จมายังเมืองเรณูนคร,ธาตุพนม                 จากธาตุพนมท่านเสด็จโดยเรือยาวซึ่งเป็นเรือพาย ชื่อ เรือมณฑล  เป็นเรือของพระศศิวงษ์ประวัติ โดยมีพระประ                 สงค์ที่จะทอดพระเนตรการล่องแก่งในลํานํ้าโขง  วันที่ ๑๙ มกราคมพ.ศ.๒๔๔๙ เสด็จมาถึงบ้านหว้านใหญ่ เขต                 เมืองมุกดาหาร                                           วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๔๙ท่านเสด็จมาถึงเมืองมุกดาหาร  ซึ่งพระองค์ได้ทรงบันทึกไว้ว่า                 “...........วันที่ ๒๐มกราคม เวลาเช้าโมงหนึ่ง ลงเรือพายอ้อมหาดขึ้นไปแล้ววกล่องลงมาถึงบ้านบางทรายน้อยเวลาเช้า ๒โมงเศษ                 ขึ้นบก  ให้ราษฎรพบที่วัดครู่หนึ่ง แล้วลงเรือล่องต่อมาแลเห็นเมืองสวรรณาเขตของฝรั่งเศสทางฝั่งซ้าย      แล้วถึงเมืองมุกดาหาร                 เวลาเช้า ๔ โมง พระยาศศิวงษ์ประวัติ จางวาง  ลงมาคอยรับที่ท่านํ้า มีพระสวดไชยมงคล  ขึ้นที่ท่าหน้าเมืองแล้วเดินไปตามถนน                 จนถึงที่พัก  ซึ่งพระอนุชาติวุฒาธิคุณ ข้าหลวงจัดรับเป็นตึกขัดแตะถือปูนทําอย่างมั่นคง ถนนที่เมือมุกดาหารนี้ทําถนนกว้างใหญ่                 แลดูสะอาดตา แต่บ้านเรือนราษฎรอยู่ข้างร่วงโรย สินค้ามีหนัง,เขา,เร่ว,ยางกะตังกะติ้ว(นํ้ายางสีขาวจากไม้เถา)สีเสียด,ยาสูบบรร                 ทุกเกวียนไปขาย ณ เมืองนครราชสีมาและรับสินค้าจากเมืองนครราชสีมาคือ ผ้าแพรและเครื่องทองเหลือ ทองขาวและนํ้ามันปีร์                 โตเลียมบ้างกลับมาขาย  ราคานํ้ามันปีร์โตเลียมที่ฝั่งซ้ายขายปีบละ ๓ บาท ๔๘ อัฐ      นํ้ามันที่บรรทุกมาจากนครราชสีมาขายปี๊บ                 ละ ๖ บาท  แต่ไม่มีใครไปซื้อนํ้ามันที่เมืองสุวรรณาเขตรมาใช้  เพราะพลเมืองไม่ได้ใช้นํ้ามันมีแต่จีนพ่อค้าใช้เล็กน้อย  แต่ฝั่งซ้าย                 ใช้มากเพราะมีฝรั่งและนํ้ามันนั้นว่าไม่ใคร่จะสู้ดีใช้สู้นํ้ามันที่ซื้อมาจากเมืองนครราชสีมาไม่ได้    สินค้าที่รับมาจากเมืองนครราช                 สีมานั้นได้ส่งไปขายที่ร้านฝั่งซ้ายบ้าง เพราะเป็นของราคาถูกเป็นพื้นพอแก่กําลังคนพื้นเมืองจะซื้อหา   สินค้าที่ฝรั่งเศสนํามาเป็น                 ของดีแต่ราคาแพง     ทราบว่ามีห้างใหญ่แห่งหนึ่งที่เมืองสวรรณาเขตรมีของต่างๆขายและขายบุหรี่ที่รัฐบาลฝรั่งเศสทําส่งมาจาก                 เมืองฝรั่งเศสด้วยเพราะบุหรี่และไม้ขีดไฟเป็นขอผูกขาดของรัฐบาล      จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าการที่ยาสูบและไม้ขีดไฟส่งไปที่เมือง                 สวรรณาเขตรจากฝั่งขวาต้องเสียภาษีแรงนั้น เพราะรัฐบาลจะอุดหนุนให้ห้างฝรั่งเศสได้ขายบุหรี่และไม้ขีดไฟที่รัฐบาลทําเอง แต่                 ยาสูบและไม้ขีดไฟส่งไปขายฝั่งซ้ายที่อื่นๆซึ่งเป็นบ้านเล็กๆไม่มีร้านรวงใหญ่โตอันใดก็ไม่ต้องเสียภาษี                                    มาเที่ยวนี้ได้เห็นแม่นํ้าโขงตั้งแต่เมืองหนองคายลงมาจนถึงเมืองมุกดาหาร  ถ้าล่องด้วยเรือพายระยะทางประมาณ ๗                 วัน  ระยะนี้ในแผนที่ของฝรั่งเศสว่าเดินเรือได้ตลอดปี  คือว่าขึ้นล่องสะดวกกว่าระยะอื่น  แต่กระนั้นความคิดที่คาดไปเมื่อยังไม่
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77