Page 77 - mukdahansuksapub
P. 77
77 กอบอาหารแทบไม่ต้องซื้อหาทั้งนั้น ตลอดทั้งชาวบ้านนอกเมืองเมื่อเดินทางเข้ามาในเมืองเพื่อคารวะแลมาเยี่ยม เยียนท่านก็จะนําของป่าของกินของใช้มาให้ท่านอีกด้วย เช่นกล้วย,อ้อย,มะพร้าว,หน่อไม้ตลอดทั้งเนื้อสัตว์ป่าจึง มีการกล่าวขานอยู่เสมอว่าเมื่อเข้าไปในจวนเจ้าคุณพระยา แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน เพราะว่าอย่างน้อย ต้องได้รับประทานการกินเช่นปลาส้ม,ปลาแห้งขนมจีนนํ้าปลาร้า หรือลาบก้อยฯลฯ แทบทุกวันยามคํ่าคืนลูก หลานและบริวารของท่านก็จะมาฝึกซ้อมมโหรีปี่พาทย์ซึ่งมีครูมาช่วยฝึกสอน นอกจากนั้นท่านยังได้จ้างครูมา ฝึกสอนลิเกอีก ครูลิเกชื่อครูสิงห์ เป็นครูลิเกมาจากกรุงเทพฯอพยพมามีครอบครัวอยู่มุกดาหาร บางคืนก็มีการ ลําผญา ซึ่งเรียกว่าลํามุก ในจวนของท่านยามคํ่าคืนจึงมีแต่เสียงมโหรีปี่พาทย์และเสียงร้องรํา,ลิเก,หมอลําแทบ ทุกคืน ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๘ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ รับราชการในเมืองมุกดาหาร ถึง พ.ศ.๒๔๒๒อายุ ๓๔ปีดํา รงตําแหน่งราชบุตรเมืองมุกดาหารอยู่ ๘ ปี พ.ศ.๒๔๓๑ อายุ ๔๓ ปีดํารงตําแหน่งเจ้าเมืองมุกดาหาร ต่อมาเป็น จางวางกํากับราชการเมืองมุกดาหาร เมื่อเมืองมุกดาหารถูกยุบลงเป็นอําเภอมุกดาหาร ขึ้นกับจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๐ ท่านก็เป็นกรมการพิเศษจังหวัดนครพนม ถึงอนิจกรรมเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๐ รวมอายุ ๗๒ ท่านมีชีวิตอยู่มาถึง ๔ แผ่นดิน (รัชกาลที่ ๓ ถึงรัชกาลที่ ๖) เมื่อท่านถึงอนิจกรรมแล้วได้ตั้งศพและบําเพ็ญกุศลอยู่ที่จวนของท่านทุกวันเป็นเวลา ๑ ปีกว่าเพื่อรอการขอ พระราชทานเพลิงจากกรุงเทพฯมีมหรสพคบงันทุกคืน สาวๆจะมานั่งเรียงแถวนั่งเรียงรายในการคบงัน,มีลําผญา ลิเก,มโหรีปีพาทย์ทุกคืน ฝ่ายผู้ชายก็จะนั่งเล่นสกา,หมากรุกหรือเป่าแคนเกี้ยวพาราสีสาวๆแทบทุกคืน จนเกิดมี คู่สมรสเกิดขึ้นหลายคู่จากการคบงันในงานศพ