Page 82 - mukdahansuksapub
P. 82

                                                                                                             82                 มุกดาหารและขุนพินิจนรารักษ์ ปลัดขวาอําเภอหมากแข้ง(อุดรธานี)      จึงได้เสนอชื่อไปยังกระทรวงมหาดไทย                 ท่านต้องเดินทางจากจังหวัดอุดรธานีผ่านจังหวัดขอนแก่นไปยังจังหวัดนครราชสีมา   เพื่อไปขึ้นรถไฟไปยังกรุง                 เทพฯ     ถึงกรุงเทพฯท่านได้ไปพักที่บ้านพ.ต.ท.พระสมัครบุรีรมย์ (จอน มหาสุคนธ์)ผู้กํากับการตํารวจนครบาล                 กรุงเทพฯ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นตําแหน่งที่สําคัญใหญ่โตมาก  เนื่องจากภรรยาคุณพระสมัครบุรีรมย์ คือคุณชื่นเป็น                 หลานสาวคุณแม่จันทิพย์(กรุงเทพฯยังไม่มีโรงแรม)                                            ท่านได้นําหนังสือแนะนําตัวและหนังสือส่วนตัวของ พระยาพนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรภ)                 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เข้าพบ พระยาราชนิกูลวิบูลภักดี (อวบ  เปาวโรหิต) ปลัดทูลฉลอง(ปลัดกระทรวง)                 มหาดไทย  ท่านปลัดทูลฉลองได้สอบสัมภาษณ์ด้วยตัวท่านเอง  เรื่องที่สัมภาษณ์ส่วนมากจะถามในเรื่องการปก                 ครองเมืองชายแดน,การประสานงานกับฝรั่งเศสในดินแดนลาว    ท่านตอบได้เป็นที่พอใจท่านปลัดทูลฉลองมาก                 ปรากฏว่าในปีนั้นมีท่านเพียงคนเดียวในมณฑลอุดรที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายอําเภอ  รวมเวลาเดินทางจากมุกดา                 หารไปยังกรุงเทพฯและกลับเป็นเวลาร่วม ๒ เดือน                                           ท่านได้เชิญท้องตราพระราชสีห์เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย    มาดํารงตําแหน่งนายอําเภอธาตุ                 พนมตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม  พ.ศ.๒๔๖๐ เมื่ออายุ ๓๔ ปี     ซึ่งท่านได้เข้ารับราชการในสํานักผู้ว่าราชการเมือง                 มุกดาหารอยู่ ๘ ปี,เป็นปลัดอําเภอซ้าย ๕ ปี,เป็นปลัดอําเภอขวา ๕ ปี รวม ๑๘ ปี   จึงได้ดํารงตําแหน่งนายอําเภอ                 รับพระราชทานเงินเดือนขั้นแรกเดือนละ ๑๐๐ บาท      ต่อมาได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ครั้งแรกเป็น                 รองอํามาตย์ตรี ขุนพิทักษ์พนมเขตร์   จนครั้งสุดท้ายได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์ เป็น รองอํามาตย์เอก                 หลวงพิทักษ์พนมเขตร์  เงินเดือนครั้งสุดท้าย๒๕๐ บาท                                       อําเภอธาตุพนมได้ตั้งขึ้นเพราะทางราชการได้ยุบเมืองเรณูนครลงเป็นอําเภอเรณูนครเมื่อ พ.ศ.๒๔                 ๕๐และได้ย้ายที่ทําการอําเภอมาตั้งที่ตําบลธาตุพนม  แต่ก็ยังใช้ชื่อว่าอําเภอเรณูนครอยู่ ผู้เป็นนายอําเภอเรณูนคร                 คนแรกคือ หลวงชาญยุทธกิจ (กา เตโช) นายอําเภอคนต่อมาคือ พระราชกิจภักดี (ดวงเกษ ณ นครพนม)และคน                 ต่อมาอีกคือ ขุนพนมพนารักษ์ (เฮ้า  พิมพานนท์)จนถึง พ.ศ.๒๔๖๐จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น อําเภอธาตุพนม ท่านจึง                 เป็นนายอําเภอคนแรกที่เปลี่ยนชื่อจาก อําเภอเรณูนครเป็นอําเภอธาตุพนม                                พ.ศ.๒๔๖๕ ท่านต้องมีภาระในการควบคุมการก่อสร้างตึกที่ว่าการอําเภอ ซึ่งเป็นตึก ๒ ชั้นสิ้นค่า                 สร้าง๒ พันบาทและยังร่วมกับคณะสงฆ์วัดพระธาตุพนมบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถในวัดพระธาตุพนม   สิ้น                 เงินพันกว่าบาท ซึ่งพระอุโบสถหลังนี้ พระยาจันทร์สุริยวงษ์ (กิ่ง)เจ้าเมืองมุกดาหารในลําดับที่ ๒ ผู้เป็นทวดของ                 ท่านได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๓๔๙     เพราะเมืองมุกดาหารแบ่งเขตแดนกับเมืองนครพนมที่หน้าองค์พระธาตุพนม                 แต่พระอุโบสถซึ่งสร้างมานานร้อยกว่าปีแล้วได้ชํารุดทรุดโทรมมาก                                 พ.ศ.๒๔๖๘  พระยาศรีธรรมาธิราช(เจิม บุณยรัตพันธ์) ปลัดทูลฉลอง  (ปลัดกระทรวง) มหาดไทย                 ได้เดินทางมาตรวจราชการทางภาคอีสาน    ท่านเดินทางมาตามเส้นทางที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยา
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87