Page 79 - mukdahansuksapub
P. 79

                                                                                                             79                                               ครั้นถึง พ.ศ.๒๔๓๑เมื่อท่านอายุ ๕ ขวบเจ้าคุณบิดาของท่านก็ได้ดํารงตําแหน่งเจ้าเมืองมุกดา                 หาร  ท่านเรียนหนังสือไทยและหนังสือลาว(ไทยน้อย)ในจวนเจ้าเมืองมุกดาหารซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียน โดย                 มีครูปัน,ครูหนูและครูสุยเป็นครูสอน                                                 พ.ศ.๒๔๔๐ พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม    ข้าหลวงต่างพระองค์สําเร็จ                 ราชการมณฑลลาวพวน     ซึ่งมีอํานาจในการปกครองเมืองต่างๆในอีสานเหนือ  มีกองบัญชาการอยู่ที่บ้านหมาก                 แข้ง(อุดรธานี) มีพระดําริที่จะพัฒนาศักยภาพนักปกครองรุ่นต่อๆไป    พระองค์จึงทรงขอให้เจ้าเมืองต่างๆส่งลูก                 หลานไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก  เพื่อจะได้รับการฝึกอบรมฝึกฝนการปกครองบ้านเมืองในยุคต่อๆไป    ท่านมีอา                 ยุ ๑๔ ปีในขณะนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ควรจะได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในขณะนั้นด้วย     แต่เจ้าคุณบิดาของท่านไม่                 ยอมที่จะส่งลูกชายคนนี้ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็กเพราะรักและห่วงลูกชายคนนี้มากเพราะกําพร้ามารดามาตั้งแต่                 เล็กๆ  ท่านจึงเคยเล่าเรื่องนี้ให้ลูกหลานฟังด้วยความน้อยใจอยู่เสมอว่า  บรรดาลูกหลานของเจ้าเมืองอื่นๆในภาค                 อีสานซึ่งถวายตัวเป็นมหาดเล็กในครั้งนั้นได้ดิบได้ดีในราชการต่อมาเป็นส่วนมาก  หากเจ้าคุณบิดาของท่านยอม                 ให้ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็กในครั้งนั้นด้วยท่านก็คงได้ดิบได้ดีในหน้าที่ราชการมากกว่านี้                                                 พ.ศ.๒๔๔๔๒    ท่านเริ่มเข้ารับราชการในสํานักผู้ว่าราชการเมืองมุกดาหารตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี                 ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นในการปรับปรุงการปกครองหัวเมืองจากแบบดั้งเดิม ซึ่งเดิมเคยปกครองโดยมี เจ้าเมือง,อุปฮาด,                 ราชวงษ์,ราชบุตรและกรมการเมืองโดยไม่มีเงินเดือน  แต่ละเมืองก็จะเก็บส่วยสาอาการได้เองแล้วส่งส่วยต่อกรุง                 เทพฯทุกปี    เปลี่ยนเป็นผู้ว่าราชการเมือง,ปลัดเมือง,ยกบัตรเมืองและกรมการเมืองให้เหมือนกันหมดทั้งประเทศ                 และเริ่มมีเงินเดือนเป็นครั้งแรกในเมืองมุกดาหารตามข้อบังคับการปกครองหัวเมือง ร.ศ.๑๑๗และให้เปลี่ยนนาม                 มณฑลลาวพวนเป็นมณฑลฝ่ายเหนือ ซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น มณฑลอุดร     เมืองมุกดาหารขึ้นกับการปกครอง                 มณฑลฝ่ายเหนือ(ต่อมาเปลี่ยนเป็นมณฑลอุดร)                                                 ท่านจึงเข้ารับราชการในยุคที่เป็นรอยต่อระหว่างการปกครองแบบเก่าและแบบใหม่ ท่านเริ่ม                 เข้ารับราชการเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๒(จากสมุดประวัติการรับ ราชการ)เมื่ออายุ ๑๖ ปี ได้รับเงินเดือน                 ขั้นแรกเดือนละ ๑๐ บาทในสํานักผู้ว่าราชการเมืองมุกดาหาร  โดยมี พระจันทรเทพสุริยวงษา (แสง จันทรสาขา)                 พี่ชายของท่านเป็นผู้ว่าราชการเมืองและมีเจ้าคุณบิดาของท่าน คือ พระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ จันทรสาขา)   เป็น                 จางวางกํากับราชการเมืองมุกดาหาร                                                 พ.ศ.๒๔๔๖ พวกเงี้ยวหรือพวกตองซู่  ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าพวก กุลา   ได้เดินทางมาค้าขายใน                 หัวเมืองแถบลุ่มแม่นํ้าโขงเป็นจํานวนมาก    บางคนก็ได้สมรสกับชาวผู้ไทยและตั้งบ้านเรือนอยู่ในแถบทุ่งหมาก                 เฒ่าเขตเมืองหนองสูง   เมืองขึ้นเมืองมุกดาหาร(ปัจจุบันบ้านขุมขี้ยาง  อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์)เป็นจํานวนมาก                 ได้ก่อการจลาจล ไม่ยอมอยู่ใต้การบังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง      พระวรวงษ์เธอ  พระองค์เจ้าวัฒนา  ข้า
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84