Page 74 - mukdahansuksapub
P. 74

                                                                                                             74                 เสด็จถึงบ้านหว้านใหญ่ เขตเมืองมุกดาหาร ๑๙มกร๒๔๔๙          ที่ประทับแรมที่เมืองมุกดาหาร ๒๐ มกราคา ๒๔๔๙                              คืนวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๔๔๙ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดํารงฯประทับแรมในเมืองมุกดาหาร     พระยา                 ศศิวงษ์ประวัติ สั่งให้ชาวเมืองมุกดาหารช่วยกันเผาข้าวหลามเกือบร้อยกระบอก    เพราะว่าเช้ารุ่งขึ้นคือวันที่ ๒๑                 มกราคม เวลาประมาณ ๕.๐๐ น.พระองค์และผู้ตามเสด็จประมาณร้อยกว่าคนเสด็จด้วยขบวนม้าและเกวียนออก                 เดินทางจากเมืองมุกดาหาร   พระองค์และผู้ตามเสด็จทุกคนมีข้าวหลามผูกติดอานม้าทุกคนเพื่อเตรียมเป็นอาหาร                 เช้า   ราษฎรประมาณร้อยกว่าคนถือคบเพลิง(ใต้)เดินสองข้างทางของขบวนเสด็จจนรุ่งสว่าง  ประทับแรมที่บ้าน                 นากอก(ตําบลนากอก อําเภอนิคมคําสร้อยปัจจุบัน)     เสด็จต่อไปยังเมืองยโสธร,ร้อยเอ็ด,พุทไธสง,นครราชสีมา                 แล้วประทับรถไฟเสด็จกลับกรุงเทพฯ                                   หลังจากที่พระองค์เสด็จตรวจราชการทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วได้ปรับปรุงการปกครองส่วน                 ภูมิภาคให้เหมือนกันหมดทั่วราชอาณาจักร์ คือให้มีมณฑล,จังหวัด,อําเภอ,ตําบลและหมู่บ้านซึ่งทรงเห็นว่าหัวริม                 ฝั่งโขงคงยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดๆเดียว คือ  จังหวัดนครพนม  แม้แต่เมืองหนองคายก็ถูกยุบลงเป็นอําเภอ ขึ้นกับ                 จังหวัดอุดรธานี(ภายหลังจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดเมื่อพ.ศ.๒๔๕๘)    เมืองมุกดาหารซึ่งเคยเป็นเมือง                 มาแล้วถึง ๑๓๗ ปี   จึงถูกยุบลงเป็นอําเภอมุกดาหารขึ้นกับจังหวัดนครพนม     ซึ่งได้เปิดที่ทําการอําเภอเมื่อวันที่                 ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๐      อนึ่งเนื่องจากเมืองมุกดาหารเคยมีข้อขัดแย้งระหว่าง บาทหลวงวัดคาธอลิคที่บ้านสอง                 คอน  มุกดาหารอยู่เนืองๆ  พระองค์จึงทรงแต่งตั้ง ให้ หลวงทรงสราวุธ (เจิม วิเศษรัตน์)   ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์                 นิกายโรมันคาธอลิค เป็นนายอําเภอมุกดาหารคนแรก นายอําเภอจึงเป็นผู้ประสานรอยร้าวและขจัดความขัดแย้ง                 ได้เป็นอย่างดียิ่งโดยดํารงตําแหน่งนายอําเภอมุกดาหารอยู่ถึง ๘ ปีจนถึงพ.ศ.๒๔๕๘ จึงย้ายไปดํารงตําแหน่งผู้ว่า                 ราชการจังหวัดหนองคาย และผู้ว่าราชการสมุทรสงคราม  ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาสมุทรศักดา                 รักษ์ แล้วย้ายกลับมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมอีกครั้งหนึ่ง(ปัจจุบันใช้นามบรรดาศักดิ์ของท่าน   เป็นชื่อ                 ถนนสายหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร )    ส่วนพระยาศศิวงษ์ประวัติท่านได้รับพระราชทานยศและบรรดา                 ศักดิ์เป็น อํามาตย์เอก พระยาศศิวงษ์ประวัติ ถือศักดินา ๓,๐๐๐ไร่    จางวางที่ปรึกษาราชการและกรมการพิเศษ                 จังหวัดนครพนมรับพระราชทานเบี้ยหวัดเงินปีๆละ ๕๐๐ บาท     เนื่องจากเมืองมุกดาหารเคยเป็นเมืองมาก่อน                 ถึง ๑๓๗ ปีก่อนที่จะถูกยุบลงเป็นอําเภอมุกดาหารมีเจ้าเมืองรวม ๗ คน  เจ้าเมือง ๒ ท่านแรกได้รับพระราชทาน
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79