Page 196 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 196
172
และ "คิดเท่าไรไม่รู้ ต ้องมีสองสิ่งประกอบกัน
หยุดคิดจึงรู้ แต่ต ้องอาศัยคิด" คือกายและจิตวิญญาณ
ดังนั้น จึงมีคํากล่าวว่า "ตาที่สาม"
การเข ้าถึงธรรมชาติแท ้ เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต
หรือความว่างแท ้ วิญญาณ
คือการเข ้าถึงโดยวิธีธรรมชาติ
คือ จิตโพล่งเดียวเข ้าถึง ⊙"ตาที่สาม" ในทางจิต
หรือเรียกว่า เพียงแต่ลืมตา วิญญาณ
(ใน)สักหน่อย ก็มองเห็นแล ้ว ต ้องการ ความมีเจตนาที่
●คําอธิบายในเชิงลึก: บริสุทธิ์อย่างยิ่ง อุทิศตน
ตา(ใน) ที่กล่าวถึง เสียสละ เพื่อส่วนรวม
ก็หมายถึงตาที่สาม โดยไม่หวังผลประโยชน์
ซึ่งอจ.ได ้อธิบายไว ้แล ้ว หรือสิ่งตอบแทนใดๆ
ในบทเรียน#56
โดยมีโยนิโสมนสิการ
อธิบายเพิ่มเติม: คือ การหมั่นเพียรพิจารณาอยู่
เนืองๆเฟ้นหาต ้นธรรมหรือ
⊙"ตาที่สาม" ในทางกายภาพ แก่นธรรมโดยแยบคาย เป็นวสี
คือจักระที่หก กลางสมอง อย่างยิ่งยวดจนตกผลึกเห็นต ้น
ของกายละเอียด หรือกาย ธรรม หรือแก่นธรรม
ทิพย์ซึ่งเป็นกายที่ซ ้ อนกับกาย โดยชัดแจ ้ง และทะลุปรุโปร่ง
หยาบของมนุษย์ มีลักษณะ จะเรียกว่า"กําลังธรรม"
เหมือนกันเป็นพิมพ์เดียวกัน (EXPERIENCE) ก็ได ้
แต่ละเอียดกว่าและมองด ้วย
ตาเปล่าไม่เห็น ตาที่สามนี้ ไม่อาศัยการเพ่ง
และต ้องเพิกถอน"ความ
ซึ่งความจริง ก็มิได ้เป็นเรื่อง อยาก"
มหัศจรรย์แต่อย่างใด
เพราะมนุษย์ มิได ้มีแต่เพียง เมื่อนั้น ความมี"ตาที่สาม"
ร่างกายที่จับต ้องได ้ เพียง จะเข ้ามาสู่เราเอง โดย
อย่างเดียว อัตโนมัติ
การมีตาที่สาม คือการรู้แจ ้ง
แต่องค์ประกอบของมนุษย์ ชัดเจนทะลุปรุโปร่ง ...