Page 67 - วารสาร สช มค-มีค 61(new)
P. 67

ปัจจัยที่มีผลต่อการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิง
                                                                       เขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต  ง�นวิจัย


            ที่ผ่านการประเมินทักษะการตรวจ ในปีงบประมาณ              วิธีด�ำเนินกำรวิจัย
            2554-2556 คิดเป็นร้อยละ 41.28, 47.33
            และ51.21 ตามล�าดับ (ส�านักงานสาธารณสุขจังหวัด     การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา
            ภูเก็ต, 2560) จากข้อมูลสรุปผลการปฏิบัติงาน  (Descriptive research study) ประชากรที่ศึกษาคือ ผู้
            ประจ�าปี ของส�านักงานสาธารณสุขอ�าเภอถลาง พบ  หญิงอายุ 35-60 ปีเขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จ�านวน
            ว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อตรวจคัดกรองโรค  14,219 รายโดยมีเกณฑ์การคัดเข้าศึกษาคือ ผู้หญิงที่
            มะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก โดยวิธีการให้ความรู้  มีอายุ 35-60 ปี (เกิดวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2500–31
            แก่ผู้หญิงกลุ่มอายุ 35-60 ปี ในการตรวจเต้านม  ธันวาคม พ.ศ.2517) มีภูมิล�าเนาตามทะเบียนบ้านอยู่
            ด้วยตนเองนั้น ผลการปฏิบัติงานยังไม่ครอบคลุม  ในอ�าเภอถลาง ไม่น้อยกว่า 6 เดือนและไม่มีประวัติได้
            กลุ่มเป้าหมาย โดยจากข้อมูลการตรวจเต้านมด้วย  รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านม เกณฑ์การคัดออก
            ตนเองของสตรีอายุ 30-70 ปี เขตอ�าเภอถลาง    คือ ผู้ที่มีปัญหาทางด้านร่างกายและด้านจิตใจจนไม่
            ปีงบประมาณ 2557-2559 คิดเป็นร้อยละ 54.98,   สามารถตอบแบบสอบถามได้ ค�านวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง
            50.58  และ  54.31  ตามล�าดับ  (ส�านักงาน   โดยใช้สูตร Daniel (2010) ก�าหนดระดับความเชื่อมั่น
            สาธารณสุขอ�าเภอถลาง, 2560) ซึ่งต�่ากว่าเป้าหมาย  ที่ 95% ค่าความคลาดเคลื่อนสามารถยอมรับได้เท่ากับ
            ของกระทรวงสาธารณสุขมาก ดังนั้นการรณรงค์เพื่อ  0.05 ได้กลุ่มตัวอย่าง 268 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง
            เป็นการเฝ้าระวังและค้นหาโรคมะเร็งเต้านมตั้งแต่  โดยใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage sam-
            ระยะเริ่มแรกจึงเป็นสิ่งจ�าเป็นที่จะท�าให้สามารถ  pling) ขั้นตอนแรก เริ่มต้นจากการสุ่มเลือกต�าบลใน
            ค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรก และ  อ�าเภอถลางมา 50% ของต�าบลทั้งหมด ด้วยวิธีการสุ่ม
            เป็นการลดอัตราการเสียชีวิตได้ผู้หญิงกลุ่มเสี่ยง  แบบกลุ่ม (Cluster random sampling) ได้รายชื่อต�าบล
            จ�าเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการ  มา 3 ต�าบล ขั้นที่สองท�าการสุ่มเลือกรายชื่อหมู่บ้านมา
            ป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และพฤติกรรมการป้องกัน  50% ของแต่ละต�าบล ได้รายชื่อหมู่บ้าน 12 หมู่บ้าน
            โรคมะเร็งเต้านม ซึ่งการที่จะมีความรู้และพฤติกรรม  ขั้นที่สาม ท�าการสุ่มเลือกรายชื่อประชากรหญิงอายุ
            การป้องกันโรคมะเร็งเต้านมที่ถูกต้องจะเกิดขึ้นได้   35-60 ปี เพื่อเป็นกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การสุ่มแบบมีระบบ
            เมื่อผู้หญิงมีการรับรู้เรื่องการป้องกันโรคมะเร็งเต้า  (Systematic random sampling)
            นมได้อย่างถูกต้อง (บงกช เก่งเขตกิจและคณะ,         แบบสอบถามประกอบส่วนที่ 1 คุณลักษณะ
            2542)
                                                       ส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ความรู้ ได้แก่ความรู้โรคมะเร็งเต้า
                       วัตถุประสงค์กำรวิจัย            นม และความรู้ในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ข้อค�าถาม
                                                       คือ ถูก ผิด และไม่แน่ใจ ใช้เกณฑ์การแปลผลของ Bloom
                    1. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการ (1975) แบ่งเป็น 3 ระดับคือ
            ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิง     ระดับสูงสุด (ค่าคะแนน ≥ 80%)
            เขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต                       ระดับปานกลาง (ค่าคะแนน ระหว่าง 61%-

                    2. เพื่อท�านายปัจจัยที่มีผลต่อการตรวจคัด  79%)
            กรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิงเขต         ระดับต�่า (ค่าคะแนน ≤ 60%)
            อ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต                          ส่วนที่ 3 การรับรู้ด้านสุขภาพ ได้แก่ การรับรู้
                                                       ถึงโอกาสเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม การรับรู้ถึงความ




                                                                                               65
                                                                วารสารสุขภาพภาคประชาชน
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72