Page 62 - วารสาร สช มค-มีค 61(new)
P. 62

แนวทางการจัดการตนเองเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
           ง�นวิจัย      ของชุมชนบ้านปากทอนอ�าเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช



            การจัดการตนเอง ดัชนีมวลกาย และระดับน�้าตาลใน ของโปรแกรมการส่งเสริมพฤติกรรมการออก
            เลือดหลังอดอาหาร ของผู้ที่มีภาวะเสี่ยงระยะก่อน         ก�าลังกายในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า
            เบาหวานในชุมชน พบว่า ดัชนีมวลกายลดลง และ            กิจกรรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และความ
            ระดับน�้าตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ              คาดหวังผลดีในการออกก�าลังกาย จากการวางแผน
            ที่ระดับ .05                                  การออกก�าลังกาย ฝึกบันทึกติดตามพฤติกรรม และ
                                                          ปฏิบัติให้ส�าเร็จ ด้วยตนเอง รวมถึงการได้เห็น
                    ภายหลังด�าเนินการ กลุ่มเป้าหมายมีความรู้  ตัวแบบ การเรียนรู้จากรูปแบบการออกก�าลังกาย
            ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและมีพฤติ    ที่เหมาะสมกับโรค การชักจูงใจด้วยค�าพูดการ
            กรรมการออกก�าลังกายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ   กระตุ้นทางด้าน  ร่างกายและอารมณ์ให้มีความมั่นใจ
            (p<.01) ทั้งนี้เนื่องจากแนวทางการจัดการตนเองที่  ในการปฏิบัติท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคะแนนเฉลี่ย
            พัฒนาขึ้น มุ่งเน้นการให้ความรู้และฝึกทักษะที่จ�าเป็น  พฤติกรรมการออกก�าลังกายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
            ต่อการป้องกันโรคเบาหวานโดยกิจกรรมดังกล่าวเป็น  ชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้น กว่าก่อนการทดลองและสูงกว่า
            กิจกรรมที่พัฒนาศักยภาพของบุคคลให้สามารถดูแล   กลุ่มควบคุมอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ
            จัดการกับภาวะสุขภาพเบื้องต้นได้ การใช้แอปพลิเคชั่น
            ไลน์กลุ่มส�าหรับคอยกระตุ้นเตือนการออกก�าลังกายทุก    ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการตนเอง
            วัน การตั้งเป้าหมายของการออกก�าลังกายและการรับ ที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการออกก�าลังกาย
            ประทานอาหาร แผนปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย  กลุ่มเป้าหมายมีอาชีพท�าสวนยางพาราที่ต้อง
            และมีการติดตามเยี่ยมซักถามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ  กรีดยางในเวลากลางคืนและต้องนอนกลางวัน ตอน
            ร่วมกับแก้ไขปัญหาและให้ความรู้ซ�้าในส่วนยังไม่เข้าใจ เย็นก็ต้องท�าหน้าที่แม่บ้านดูแลครอบครัว ท�าให้
            หรือท�าได้ไม่เหมาะสม ท�าให้กลุ่มเป้าหมายมีความมั่นใจ ไม่ค่อยมีเวลา จึงต้องคอยกระตุ้นเตือนและให้
            ในศักยภาพของตน ก่อเป็นแรงจูงใจที่ส�าคัญในการ          ก�าลังใจอย่างสม�่าเสมอ นอกจากนี้ปัญหาของสภาพ
            ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคเบาหวานอย่าง  ภูมิอากาศที่มีฝนตกบ่อย ท�าให้ไม่เหมาะในการ
            ต่อเนื่องและยั่งยืน ส่งผลให้มีคะแนนความรู้ความ             ออกก�าลังกาย ส�าหรับเรื่องรับประทานอาหาร จะมี
            เข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและมีพฤติกรรมการ               ปัญหาและอุปสรรคสมาชิกคนอื่นๆรับประทาน
            ออกก�าลังกายเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการศึกษาของ              ไม่ค่อยได้ บอกว่ารสชาติไม่อร่อย ได้แนะน�าให้ตัก
            พรภิมล วงมุสิก อารี พุ่มประไวทย์ และสุคนธ์ วรรธนะ อาหารส�าหรับกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะปรุงรสชาติ
            อมร ศึกษา ผลของการจัดกิจกรรมการควบคุมน�้าหนัก  ตามที่สมาชิกในบ้านชอบรับประทาน
                8
            โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีแรงจูงใจ และแรงสนับสนุนทาง
            สังคม ต่อค่าดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว ความรู้ และ              ข้อเสนอแนะ
            พฤติกรรมการควบคุมน�้าหนักของบุคลากร โรงพยาบาล        ข้อเสนอแนะควรท�าการศึกษาวิจัยในเชิง
            ค่ายวิภาวดีรังสิต พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการ  การทดลองน�าแนวทางการจัดการตนเองเพื่อลด
            ควบคุมน�้าหนักดีกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และเส้น            ปัจจัยสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานไปใช้กว้างขึ้น มี
            รอบเอวลดลงอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05   กลุ่มควบคุมชัดเจน  เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของ
                                        5
            สอดคล้องกับ ธีรพล ผังดี และคณะ  ศึกษาประสิทธิผล
                                                          แนวทางดังกล่าว




          60
                   วารสารสุขภาพภาคประชาชน
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67