Page 61 - วารสาร สช มค-มีค 61(new)
P. 61
แนวทางการจัดการตนเองเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
ของชุมชนบ้านปากทอนอ�าเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ง�นวิจัย
“เรื่องกินก็พยายามท�าตามที่หมอบอกนั่น แนวทางปฏิบัติไปใช้ ประกาศเป็นนโยบายให้น�าลงสู่การ
แหละ แรกๆมันก็ไม่ค่อยถูกปาก (อร่อย) แต่พอกิน ปฏิบัติอย่างเป็นมาตรฐาน น่าจะส่งผลให้ความเสี่ยงต่อ
ไปนาน มันก็ชิน ตอนนี้คนอื่นที่บ้านก็กินด้วยกันได้ การเป็นโรคเบาหวานของประชาชนลดลง ส่งผลให้
แล้ว” จ�านวนผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ลดลง
“แต่ก่อนกินกาแฟซองก่อนไปตัดยาง ขาย 3. ประโยชน์และความคุ้มทุนของการน�าไปใช้
น�้ายาง เสร็จแล้วอาบน�้ากินข้าวแล้วนอนตื่นมา กิน (Cost-benefit)ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การใช้
ข้าวหวางบ่ายหวางเย็น นึกแล้วมั่วดี ตอนนี้เปลี่ยน แนวทางการจัดการตนเองเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็น
ใหม่ กินข้าวก่อนไปตัดยาง กินกาแฟด�า1จอก เก็บ โรคเบาหวาน ท�าให้กลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมการจัดการ
ยาง ขายน�้ายาง เสร็จแล้วอาบน�้านอน ตื่นหวันเที่ยง ตนเองที่ดีขึ้น มีน�้าหนักรอบเอวและระดับน�้าตาลใน
กินข้าวเที่ยง มีเวลาท�ากับข้าวมื้อเย็น พอตี4 (16.00 กระแสเลือดลดลง ผู้ศึกษาได้ประเมินอย่างรอบคอบ
น.) กินข้าวเย็น 5โมงครึ่งไปเต้นแอโรบิก กลับบ้าน เกี่ยวกับความปลอดภัยพบว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
อาบน�้า ได้มีเวลาแลโทรทัศน์ ซัก ชั่วโมง สอง ชั่วโมง กับกลุ่มเป้าหมาย มีความคุ้มทุนในด้านก�าลังคนในการ
ก่อนนอน นอนหลับดีมาก ตอนนี้พุงยุบเลย” ดูแลกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้พยาบาลเพียง 1 คนสามารถ
ส่วนที่ 3 แนวโน้มการน�าแนวทางการ ดูแลปัญหาได้อย่างครอบคลุมไม่ต้องใช้บุคลากรเพิ่ม และ
จัดการตนเองไปใช้โดยพิจารณาจาก กิจกรรมในแนวทางที่พัฒนาขึ้นก็มีความสอดคล้องกับ
แนวทางการด�าเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมายท�าให้ไม่ต้อง
1. การถ่ายทอดและการน�าลงสู่การปฏิบัติ เสียค่าใช้จ่ายใดๆและสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองที่บ้าน
(Transferability)การพัฒนาแนวทางการจัดการ
ตนเองเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้ใช้ สรุปและอภิปรำยผล
ข้อมูลที่ผ่านการศึกษาอย่างเป็นระบบจากการ ภายหลังการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีน�้า
ทบทวนความรู้และรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ หนักตัวค่าดัชนีมวลกาย รอบเอว และระดับน�้าตาลใน
เกี่ยวข้อง สังเคราะห์งานวิจัยและน�าความรู้ที่ได้มา เลือดลดลงอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (p<0.01) แสดง
พัฒนาแนวทางการจัดการตนเองเพื่อลดปัจจัยเสี่ยง ให้เห็นถึงประสิทธิผลของแนวทางการจัดการตนเอง โดย
ต่อการเป็นโรคเบาหวาน เมื่อน�าไปใช้กับกลุ่มเป้า ผ่านทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การที่กลุ่ม
หมายจ�านวน 15 ราย พบว่าสามารถน�าไปใช้ได้จริง เป้าหมายปรับเปลี่ยนวิธีรับประทานอาหารร่วมกับการ
มีความเหมาะสมตามบริบทที่เฉพาะของกลุ่มเป้า ออกก�าลังกาย ท�าให้ร่างกายสลายไขมันที่สะสมมาใช้
หมายและสถานที่ที่ศึกษา
เป็นพลังงาน ประกอบกับการใช้แอปพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม
2. ความเป็นไปได้ (Feasibility)มีความเป็น ส�าหรับคอยกระตุ้นเตือนการออกก�าลังกายทุกวัน และ
ไปได้สูงในการน�าไปใช้กับผู้ป่วยที่บ้าน เนื่องจาก มีการติดตามเยี่ยม ส่งผลให้พฤติกรรมการจัดการตนเอง
แนวทางนี้มีขั้นตอนการดูแลที่ง่ายในการน�าไปใช้จริง ของกลุ่มเป้าหมาย มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลด
เป็นบทบาทที่พยาบาลสามารถปฏิบัติได้จริงและ ระดับน�้าตาลในกระแสเลือดได้ สอด คล้องกับ การศึกษา
2
สามารถสอดแทรกเข้าไปงานประจ�าที่ท�าอยู่ได้ ของ ขนิษฐา พิศฉลาด และภาวดี วิมลพันธุ์ ศึกษาผล
สามารถประเมินผลลัพธ์การใช้แนวทางได้ง่าย หาก ของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองต่อพฤติกรรม
จัดให้มีการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนา
เช่น การสนับสนุนการอบรมเจ้าหน้าที่ในการน�า
59
วารสารสุขภาพภาคประชาชน