Page 64 - วารสาร สช มค-มีค 61(new)
P. 64
ง�นวิจัย โดย รัชนีกร ถิรตันตยาภรณ์
พยาบาลวิชาชีพช�านาญการ โรงพยาบาลถลาง จังหวัดภูเก็ต
ปัจจัยที่มีผลต่อการ
ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิง
เขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อ
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิงเขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต กลุ่มประชากรคือผู้หญิง
อายุ 35-60 ปี ที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จ�านวน 14,219 ราย ใช้สูตรการ
ค�านวณกลุ่มตัวอย่างที่ทราบจ�านวนประชากรที่แน่นอนของ Daniel จ�านวน 268 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ
หลายขั้นตอน ประกอบด้วยการสุ่มแบบกลุ่มและการสุ่มแบบมีระบบ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม
4 ส่วนประกอบด้วย 1) คุณลักษณะส่วนบุคคล 2) ความรู้โรคมะเร็งเต้านม 3) การรับรู้ด้านสุขภาพ 4) พฤติกรรม
การตรวจเต้านมด้วยตนเอง มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรด้วยสถิติ
Pearson’s product moment correlation coefficient และวิเคราะห์ปัจจัยท�านายผลตัวแปรตามด้วยสถิติ
Stepwise multiple regression analysis ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ความรู้โรคมะเร็งเต้านมอยู่ในระดับ
สูง (x = 2.05, S.D. = 0.828) การรับรู้ด้านสุขภาพ อยู่ในระดับปานกลาง (x = 2.11, S.D. = 0.336) การ
รับรู้ด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิงอ�าเภอ
ถลาง จังหวัดภูเก็ต อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ ประกอบด้วยการรับรู้ประโยชน์ของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
(r = 0.136, P-value = 0.026), การรับรู้อุปสรรคของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (r = 0.162, P-value =
0.008), ความเชื่อมั่นในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (r = 0.172, P-value = 0.005) ตามล�าดับ ปัจจัยท�านาย
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของผู้หญิงเขตอ�าเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย อายุเมื่อ
หมดประจ�าเดือน (P-value = 0.046), การรับรู้ประโยชน์ของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (P-value = 0.007),
ความเชื่อมั่นในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (P-value = 0.015) ตามล�าดับ สามารถท�านายได้ร้อยละ
10.4 (R = 0.104)
2
ค�ำส�ำคัญ : การตรวจเต้านมด้วยตนเอง, โรคมะเร็ง
62
วารสารสุขภาพภาคประชาชน